กกต. เตรียมคัดคำวินิจฉัยศาลรธน. คดีล้มล้างการปกครอง ด้านเลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงยืนยันไม่กังวลถูกร้องยุบพรรค

วันที่ 11 พ.ย. 2564 พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาคำร้องของนายณฐพร โตประยูร ที่ขอให้พิจารณาวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล จากกรณีแสดงความเห็นทางการเมือง ยื่นแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่า ขณะนี้คณะกรรมการไต่สวนของสำนักงานฯ กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งมีข้อเท็จจริงค่อนข้างมาก จึงต้องใช้เวลา ล่าสุดทราบว่าอยู่ระหว่างการให้ผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจง และเมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยแกนนำกลุ่มราษฎรกระทำการล้มล้างการปกครองฯ สำนักงานก็จะขอคัดคำวินิจฉัยดังกล่าว เพื่อนำมาพิจารณาว่ามีส่วนใดที่เกี่ยวข้องกับที่มีการร้องหรือไม่ อย่างไร

ทางด้าน นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค นำทีม ส.ส. แถลงข่าวที่รัฐสภา กรณีที่ นายณฐพร โตประยูร เดินหน้ายื่นกกต. พิจารณายุบพรรคก้าวไกล โดยอ้างอิงจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่ตัดสิน 3 แกนนำราษฎร “อานนท์-ไมค์-รุ้ง” เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ซึ่งจะมีผลผูกพันต่อองค์กรทางการเมืองที่เกี่ยวข้อง
นายชัยธวัช กล่าวถึงข้อกล่าวหาในการยุบพรรคก้าวไกล ทั้งในกรณีส.ส.ของพรรคไปร่วมสังเกตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง และใช้หลักทรัพย์ประกันตัวช่วยเหลือผู้ที่ถูกกล่าวหาในคดีทางการเมือง รวมถึงการเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาฐานความผิดหมิ่นประมาท รวมทั้งมาตรา 112 พรรคก้าวไกล ยังยืนยันว่า ไม่เข้าเหตุในการยุบพรรค เพราะเป็นการใช้สิทธิและทำหน้าที่ในฐานะ ส.ส. ที่ดีของประชาชน เป็นการประกันสิทธิเสรีภาพที่รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ
หากการไปประกันตัว ผู้ที่ถูกกล่าวตามคดีมาตรา 112 เป็นการล้มล้างการปกครอง หลังจากนี้สังคมไทยต้องระบุให้ชัดเจนว่า ข้อหาไหนบ้างต้องไม่ได้รับสิทธิการประกันตัวโดยเด็ดขาด เพราะถือเป็นการล้มล้างการปกครอง แต่ปัจจุบัน ไม่ว่าประชาชนจะถูกเเจ้งข้อกล่าวหาใดก็ตาม ทุกคนมีสิทธิขั้นพื้นฐานในกระบวนการยุติธรรมที่จะได้รับการประกันตัวออกมาจนกว่าจะมีคำพิพากษาไปถึงที่สุด และการเสนอกฎหมายก็เป็นอำนาจหน้าที่ของสมาชิกสภานิติบัญญัติ ในระบบปกติอยู่แล้ว ข้อกล่าวหาเหล่านั้นเป็นการกล่าวหาเท็จ และมีเจตนาที่จะทำลายล้างทางการเมือง
นายชัยธวัช กล่าวยืนยันว่า ไม่กังวลต่อการยุบพรรค แต่ไม่ประมาท มีการเตรียมพร้อม และมองว่าสังคมไทยก็ต้องเตรียมตัวเช่นกัน ต้องไม่อนุญาตให้ยุบพรรคการเมืองด้วยเหตุจูงใจเป็นเรื่องปกติ เพราะถ้ากระบวนการทางยุติธรรมทางการเมืองยังเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตนคิดว่าจะเป็นระเบิดลูกใหญ่ในอนาคตต่อสังคมไทย เป็นคำถามว่าสังคมไทยจะเตรียมตัวยังไง และใครจะต้องเป็นคนรับผิดชอบของการกระทำนั่นในอนาคต
“เราจะต่อสู้อย่างถึงที่สุดไม่ว่าจะมีแรงเสียดทานอย่างไรก็ตาม พรรคก้าวไกลยังยืนยันที่จะต่อต้านการปกครองของเผด็จการคณะรัฐประหาร และฝ่ายอนุรักษ์นิยมและเรายืนยันที่จะสู้เพื่อพิทักษ์ระบอบประชาธิปไตยที่อำนาจสูงสุดนั้นเป็นของประชาชน ซึ่งเป็นหลักการพื้นฐานในการสร้างชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดีประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ หากเราถอยห่างจากหลักการแบบนี้ ก็คงไม่มีเหตุผลอันใดที่จะมีพรรคการเมืองอย่างพวกเราอยู่ เรายืนยันที่จะต่อสู้เคียงข้างพี่น้องประชาชน” เลขาธิการพรรค กล่าว










