‘พิธา’ ชี้ มติ ครม.แก้กฎกระทรวงสรรพสามิตอนุมัติผลิตสุราพื้นบ้าน จงใจใช้เป็นข้ออ้างคว่ำ พ.ร.บ. สุราก้าวหน้า

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึง มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ แก้กฎกระทรวงเกี่ยวกับการผลิตสุราว่า มติดังกล่าวไม่เข้าใจจุดประสงค์ของพ.ร.บ.สุราก้าวหน้าเลย การที่มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการอนุญาตผลิตสุรา พ.ศ. …. ปลดล็อกการผลิตเพื่อการค้าและการผลิตเพื่อบริโภค ควบคู่กับการคุ้มครองสินค้าสุราให้ได้คุณภาพมีมาตรฐานและความปลอดภัยต่อสุขภาพ สังคม และสิ่งแวดล้อม แทนที่จะมีมติเห็นชอบพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ชัดเจนว่าเป็นเรื่องการเมืองล้วนๆ ถึงแม้คุณวิษณุ เครืองามจะบอกว่าไม่ได้ปาดหน้า พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าของพรรคก้าวไกล และอ้างว่าทำมานาน 6 เดือน ก่อนสุราก้าวหน้าก็ตาม
ตนต้องขอยืนยันว่า หากจะอ้างเหตุผลเช่นนี้ เท่าพิภพ ส.ส.พรรคก้าวไกล ทำเรื่องนี้มาตั้งแต่ 6 ปีที่แล้ว และทางพรรคได้ยื่นร่างกฎหมายฉบับนี้มาตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ไม่ถูกยุบ และก่อนหน้าที่จะยื่นก็มีการเรียกกรมสรรพสามิตในกมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งเท่าพิภพเป็นกรรมาธิการอยู่หลายครั้ง แต่ก็มีแต่คำสัญญาว่าจะแก้ไขและก็เงียบหายไป จึงต้องใช้ช่องทางในเชิงนิติบัญญัติเพื่อแก้ปัญหา
ชัดเจนว่าการมีมติครม.ก่อนการลงมติพ.ร.บ.สุราก้าวหน้าออกมาเพียง 1 วัน เป็นการจงใจเพื่อให้ ส.ส. รัฐบาลอภิปรายเป็นเหตุผลกับสภาฯ ว่า พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว เพราะกฎกระทรวงออกมาแล้ว ซึ่งจริงๆ แล้วพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ยังคงจำเป็นในการประกันหลักเสมอภาคในการแข่งขันทางธุรกิจของประชาชน เนื่องจากเป็นกฎหมายลำดับชั้นสูงกว่าที่แก้ยากกว่ากฎกระทรวง ซึ่งตนเองก็ได้เตรียมตอบทุกข้อสงสัยในสภาอยู่แล้ว
นอกจากนี้ตนได้ดูรายละเอียดกฎกระทรวงดังกล่าวตอนเปิดรับฟังความคิดเห็นเมื่อสัปดาห์ก่อนในเว็บไซต์กรมสรรพสามิต และคิดว่าน่าจะใช้เวลาระยะหนึ่ง แต่ก็ไม่คิดว่าเสร็จสิ้นเร็วขนาดนี้ รู้สึกว่าพี่น้องประชาชนและพรรคก้าวไกลโดนหลอกมาตั้งนาน ที่แท้กฎกระทรวงก็แก้ไม่ยากอย่างที่อ้าง และเมื่อดูรายละเอียดมีการปลดล็อกกำลังการผลิตก็จริง แต่ก็มีการใส่ข้อจำกัดอื่น ทำให้ไม่ใช่การปลดล็อกการผลิตสุราให้รายย่อยจริง
แม้จะยกเลิกการกำหนดจำนวนทุนจดทะเบียน และกำลังการผลิตขั้นต่ำออกทั้งหมด แต่ก็มีการมาตรการเรื่องระเบียบต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นมา โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรมโรงงาน เช่น กรณีโรงอุตสาหกรรมสุราแช่ชนิดเบียร์ประเภทผลิตเพื่อขาย ณ สถานที่ผลิต หรือที่เราเรียกกันว่า บริวผับ (Brewpub) กฎกระทรวงฉบับใหม่ กำหนดให้ต้องเป็นโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ซึ่งก็คือ จะต้องมีเครื่องจักรมากกว่า 50 แรงม้า หรือคนงานมากกว่า 50 คน ทั้งที่แต่เดิมบริวผับขนาดเล็กที่มีเครื่องจักรน้อยกว่า 50 แรงม้าและจำนวนคนงานน้อยกว่า 50 คน ก็จะไม่เข้าข่ายเป็นโรงงานอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ใบ รง.๔) แต่กฎหมายใหม่เข้าใจว่าเร่งรีบก็เลยเขียนสั้นๆ ไปเลยว่าต้องเป็นโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ทำให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติขึ้นได้ว่า บริวผับขนาดเล็กที่มีเครื่องจักรจำนวนไม่มาก จะขอใบโรงงานได้ยังไงเพราะไม่เข้าเกณฑ์เป็นโรงงานอยู่แล้ว อาจจะทำให้รายย่อยหลุดออกจากตลาดไปอีก
นายพิธา ย้ำว่า การออกกฎกระทรวงนี้ไม่ได้ตอบโจทย์การปลดปล่อยอุตสาหกรรมสุราจากทุนผูกขาดที่แท้จริง และยังเป็นเครื่องพิสูจน์อีกครั้งว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้สนใจประชาชน แค่กลัวเสียหน้า กลัวขัดผลประโยชน์นายทุน ที่ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าจะผ่านในวันพรุ่งนี้ (2 พ.ย. 65) เท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง ;
รัฐบาลชิงออกกฎกระทรวงปลดล็อกผลิตสุรา ปาดหน้ากม. ‘สุราก้าวหน้า’
ก้าวไกล ขอทุกฝ่ายร่วมมือผ่านกฎหมายปลดล็อกสุรา จับตา 2 พ.ย.นี้ จะเข้าสภาฯ










