‘พล.อ.ประวิตร’ ห่วงพื้นที่ปลายเจ้าพระยาอ่วมน้ำวงกว้าง สั่งหน่วงน้ำเหนือเขื่อน พร้อมเปิด 10 ทุ่งรับน้ำและเบี่ยงน้ำป่าสักเข้าคลองระพีพัฒน์ลงทะเล ด้านเพื่อไทย ‘ธีรรัตน์’ จี้ ‘ประยุทธ์’ เร่งแก้น้ำท่วม หยุดบริหารประเทศแบบตามมีตามเกิด เร่งช่วยเยียวยาให้เร็ว
พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและคณะ ลงพื้นที่ภาคกลางจังหวัดชัยนาทและอยุธยา ติดตามสถานการณ์น้ำพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง หลังเพิ่มปริมาณการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา โดยรับฟังสถานการณ์น้ำพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง จากศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า ณ สำนักงานชลประทานที่ 12 อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ภาพรวมปริมาณน้ำปี 65 มากกว่า ปี 64 โดยใกล้เคียงกับปี 54 อันเกิดจากมรสุมและพายุที่พาดผ่านไทยหลายลูก ปริมาณน้ำยม น่าน และปิงรับน้ำมากขึ้น ส่งผลการบริหารการระบายน้ำเจ้าพระยา โดยศูนย์อำนวยการน้ำส่วนหน้า จว.ชัยนาท ได้พิจารณาให้ความสำคัญควบคุมความสมดุลไม่ให้กระทบพื้นที่อุทกภัยวงกว้าง
พล.อ.คงชีพ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ขอบคุณเจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยงาน ที่สนับสนุนรับมือสถานการณ์น้ำและช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ พร้อมทั้งสั่งการ สทนช. จังหวัด กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกันตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝน โดยขอให้พิจารณาเร่งเบี่ยงน้ำจากแม่น้ำป่าสัก เข้าคลองระพีพัฒน์ออกทะเลโดยตรง รวมทั้งขอให้หน่วงน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ลงทุ่งรับน้ำในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ และให้ผันน้ำเข้าทุ่งรับน้ำ 10 ทุ่งที่จัดเตรียมไว้ เพื่อลดปริมาณน้ำลงพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง และขอให้เร่งระบายน้ำท่วมขังออกจากพื้นที่ชุมชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยให้ สทนช.เร่งขับเคลื่อนแผนป้องกันและแก้ปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งไปในคราวเดียวกัน เพื่อแก้ปัญหาน้ำระดับพื้นที่และกักน้ำไว้เพื่อการเกษตรในฤดูแล้ง พร้อมทั้ง กำชับให้กรมชลประทานเร่งก่อสร้างคลองระบายน้ำหลากบางบาล – บางไทร ให้เร็วขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ จว.อยุธยา ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว

พร้อมขอให้กระทรวงมหาดไทย โดยทุกจังหวัดที่ประสบอุทกภัยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม พิจารณามาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบให้ทั่วถึง และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบโดยทั่วถึง ในการบริหารจัดการสมดุลน้ำไปพร้อมกัน พร้อมกับขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ที่ร่วมบริหารจัดการน้ำและลงดูแลช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จากนั้นในบ่ายวันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร’และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ อ.เสนา จ.อยุธยา ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่วัดโบสถ์

‘ธีรรัตน์’ จี้ ‘ประยุทธ์’ เร่งแก้น้ำท่วม หยุดบริหารประเทศแบบตามมีตามเกิด เร่งช่วยเยียวยาให้เร็ว
น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ใน 23 จังหวัดทางภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง ที่กำลังประสบภัยน้ำท่วมในขณะนี้เป็นอย่างมาก นับตั้งแต่พายุโนรูเข้าประเทศไทย เมื่อปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม ได้ส่งผลกระทบทำให้ฝนตกหนัก พื้นที่ทางการเกษตร ปศุสัตว์ และบ้านเรือนประชาชนจมน้ำ ในขณะที่การให้ความช่วยเหลือจากรัฐบาลเป็นไปด้วยความล่าช้า และยังเกิดปัญหาในบางพื้นที่ว่า สิ่งที่หน่วยงานปฏิบัติ กับการแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนให้เตรียมตัวกับปริมาณน้ำที่จะเข้าพื้นที่นั้นสวนทางกัน ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง พฤติกรรมของผู้นำประเทศ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือแม้แต่รัฐบาลทั้งองคาพยพ อยู่มา 8 ปี ผ่านวิกฤตมาหลายครั้ง แต่ยังแก้ไขปัญหาแบบเดิม ตอบสนองต่อความเดือดร้อนของประชาชนล่าช้า หยุดทำงานในวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ทั้งที่ความเดือดร้อนไม่มีวันหยุด
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ถูกน้ำท่วมได้อย่างเต็มที่ เนื่องด้วยกฎเหล็ก 180 วันของ กกต.ที่จำกัดการมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมได้ ทำได้เพียงการเยี่ยมเยือนไถ่ถาม และประสานงานเท่านั้น โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนลุ่มน้ำมูล และหลายจังหวัดในภาคอีสาน ต่างได้รับความเดือดร้อนแสนสาหัส ถูกน้ำท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรเป็นวงกว้าง ซึ่งเป็นไปตามที่พรรคเพื่อไทยโดย ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานด้านนโยบายปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดการน้ำ พรรคเพื่อไทย ได้มีข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาลให้เตรียมแผนการรับมือและเยียวยาทุกด้าน แต่รัฐบาลไม่ฟัง ไม่เตรียมการ จนพี่น้องประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า จึงอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องผ่อนคลายกฎเหล็กนี้
น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเสียดายโอกาสของประเทศไทยที่ยังคงถูกน้ำท่วมซ้ำซาก ด้วยวิสัยทัศน์ของพรรคที่ได้จัดทำโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทภายหลังจากสถานการณ์น้ำท่วมในปี 2554 เพื่อป้องกันและแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมและน้ำแล้งอย่างยั่งยืน หากมีโครงการในวันนั้น น้ำคงไม่ท่วมหนักเหมือนวันนี้ พี่น้องประชาชนจะมีน้ำกิน น้ำใช้ ที่เพียงพอตลอดทั้งปี อย่างไรก็ตามพรรคเพื่อไทยมีแนวคิดที่จะปัดฝุ่นโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทอีกครั้งเพื่อประโยชน์ของประเทศในระยะยาวด้วย ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่โดยด่วน ในขณะเดียวกันต้องดำเนินการเร่งรัดกระบวนการเยียวยาความเสียหายอย่างรวดเร็ว ทันการณ์ และเพียงพอ ต่อความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนและเกษตรกร
“พล.อ.ประยุทธ์ได้อยู่ต่อคำถามคือ จากนี้ไปจะแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างไร ตอนนี้มีทั้งน้ำท่วม ปริมาณน้ำในเขื่อนหลายแห่งกำลังจะเต็มความจุอ่าง และยังมีปัญหาสินค้าราคาแพง คนตกงาน ภาคท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัว ท่านจะทำอย่างไร ประเทศจะอยู่รอดหรือไม่ อย่าทำแบบเดิม แก้ปัญหาแบบวันต่อวัน หยุดบริหารตามมีตามเกิดได้แล้วค่ะ ” น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว











