‘ประวิตร’ สั่ง สทนช. มท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วย กทม. ผันน้ำลงคูคลองให้เร็วขึ้นอย่างเป็นระบบ และเพิ่มความถี่รถสาธารณะชั่วโมงเร่งด่วน อำนวยความสะดวกให้ประชาชน
พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้ย้ำสั่งการ มท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเพิ่มความเข้มให้ความสำคัญลงขับเคลื่อน 13 มาตรการ รับมือฤดูฝนร่วมกันทั่วประเทศจริงจัง โดยให้ สทนช.ลงกำกับติดตามในภาพรวม เพื่อป้องกันและแก้ปัญหาอุทกภัยที่กำลังเกิดขึ้นหลายพื้นที่ในภาพรวมอย่างเป็นระบบ
สำหรับพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ที่กำลังประสบปัญหาการระบายน้ำ จากมวลขยะและวัชพืชสะสมขวางคูคลองและระบบระบายน้ำ รวมทั้งปัญหาระดับน้ำในคูคลองหลายสายที่สูงขึ้น ส่งผลการระบายน้ำลงเจ้าพระยาได้ช้าลง พล.อ.ประวิตร’ ได้กำชับสั่งการ ขอให้ สทนช. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมชลประทาน รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกองทัพ ลงไปช่วยสนับสนุนทำงานร่วมกับ กทม. และ จว.ปริมณฑลอย่างใกล้ชิด เร่งกำจัดขยะและวัชพืชที่ขวางทางน้ำ และนำเครื่องสูบน้ำ เรือผลักดันน้ำ และเครื่องมือช่าง เข้าไปช่วยเปิดทางระบายน้ำ ผลักดันน้ำจากคูคลองลงแม่น้ำเจ้าพระยาให้เร็วขึ้น และขอให้ ขสมก. เพิ่มความถี่รถสาธารณะ ตามเส้นทางน้ำท่วมขังให้มากขึ้น รวมทั้งขอให้ ตร. ลงพื้นที่อำนวยความสะดวกการจราจรโดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วน เพื่ออำนวยความสะดวกและลดความเดือดร้อนการสัญจรของประชาชน
‘อนุชา’ สั่งทุกหน่วยปฏิบัติตาม 13 มาตรการ สทนช.
ด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงข้อสั่งการและคำปรารภของ พล.อ.ประวิตร ว่า ได้สั่งการเรื่องแก้ไขปัญหาน้ำท่วม โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจ และให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนโดยเร็ว รวมทั้งเน้นย้ำให้หน่วยงานปฏิบัติตาม 13 มาตราการรับมือฤดูฝนของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) อย่างเคร่งครัด และกำชับให้กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในพื้นที่กทม. และในพื้นท่ีต่างจังหวัด เร่งระดมสรรพกำลัง เครื่องมือ และยานพาหนะ เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ได้อย่างทันท่วงที
