ก้าวไกล ยื่นศาลปกครองหยุดดีลรถไฟฟ้าสายสีส้ม รักษาผลประโยชน์รัฐ 68,000 ล้านบาท ชี้ ถ้าปล่อยให้การประมูลผ่านอาจกลายเป็นค่าโง่ในอนาคต
นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ และ น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองพิจารณาหยุดสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยนายสุรเชษฐ์ ระบุว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มมีมูลค่าจำนวน 68,000 ล้านบาท จึงขอยื่นให้ศาลปกครองหยุดโครงการนี้ หากปล่อยให้มีการอนุมัติประเทศไทยต้องเสียผลประโยชน์มหาศาล ซึ่งเรื่องนี้เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้วไปเมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2564 ว่าตัวเลข 68,000 ล้านบาท เกิดจากกระบวนการปั้นตัวเลขมาปั่นโครงการและในวันนี้ใกล้จะปันผลประโยชน์สำเร็จแล้ว
หากศาลปกครองไม่ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เรื่องนี้จะถูกส่งไปยังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แน่นอนว่าเมื่อไปถึงคณะรัฐมนตรี จะทำให้เงินภาษีของประชาชนถูกใช้เกินจำเป็น 68,000 ล้านบาท จึงยอมไม่ได้
สำหรับจำเลยที่ยื่นฟ้อง ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนฯ และกระทรวงคมนาคม
ส่วนประเด็นที่ยื่นให้พิจารณา 4 เรื่อง ได้แก่
1. ยกเลิกการประมูลที่มีปัญหาจัดการประมูลใหม่ให้มีการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม โดยอย่างน้อย BTS และ BEM ต้องเข้าได้
2. รฟม. ต้องเข้าชี้แจงต่อคณะอนุกรรมาธิการ โดยไม่ปฏิเสธอำนาจนิติบัญญัติอย่างที่ได้เบี้ยวมา 2 ครั้ง
3. เปลี่ยนคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 ของ พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ เพื่อให้มีความโปร่งใส เนื่องจากเรื่องนี้เป็นคดีใหญ่ มูลค่าสูง และมีรายละเอียดมาก
4. คาดว่าศาลคงต้องใช้เวลาพิจารณามากพอสมควร เราจึงได้ “ยื่นคำร้อง” ขอให้ศาลมีคำสั่งกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษา และขอไต่สวนฉุกเฉินเพื่อระงับยับยั้งไม่ให้เซ็นสัญญาก่อน เพราะหากปล่อยไป รัฐบาลหน้าจะตามไปแก้ไขอะไรได้ยากและอาจทำให้เกิด “ค่าโง่ก้อนใหม่”
นอกจากนี้ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ โครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่เคยให้โอกาส รฟม. มาชี้แจงเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้มแล้ว ถึง 2 ครั้ง แต่ รฟม. ไม่มาชี้แจง ซึ่งอนุกรรมาธิการพบความผิดปกติคือ
1. การเปลี่ยนเกณฑ์การประมูลกลางอากาศการยกเลิกการประมูลครั้งก่อนโดยที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาว่า ‘การยกเลิกการประมูลดังกล่าวมิชอบด้วยกฎหมาย’
2. การกีดกัน BTS ไม่ให้มีสิทธิ์เข้าประมูลรอบใหม่คุณสมบัติต้องห้ามของผู้ผ่านการพิจารณาข้อเสนอด้านคุณสมบัติการคิดราคากลาง
3. คาดส่วนแบ่งรายได้ในอนาคตเป็นศูนย์เพราะไม่มีความพยายามของคณะกรรมการคัดเลือกในการรักษาผลประโยชน์ให้กับรัฐ
4. ที่สำคัญส่วนต่าง 68,000 ล้านบาทมีอยู่จริง ต้องไปพิสูจน์ทราบให้ได้ว่าทำไมการประมูลรอบแรก หาก BTS ชนะ รัฐจะอุดหนุนเพียง 9,675 ล้านบาท แต่ในการประมูลรอบสองซึ่ง BEM ชนะ รัฐต้องอุดหนุนมากถึง 78,288 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ในทางเทคนิคก็คือสร้างสิ่งเดียวกัน คือรถไฟฟ้าสายสีส้ม แบบการก่อสร้างก็ไม่ได้เปลี่ยนยาวเท่าเดิม สถานีเท่าเดิม
นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า อยากฝากไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ ต้องออกมาชี้แจงแบบไม่ต้องโบ้ยให้คนอื่นไปชี้แจงแทน ให้ได้ว่าส่วนต่าง 68,000 ล้านบาท หายไปไหน ทำไม BTS โดนกีดกันทั้งๆ ที่ก็รู้กันอยู่ว่าในทางปฏิบัติมันมีแค่ 2 เจ้า เรื่องนี้ยอมไม่ได้ เพราะหากปล่อยไป คนอนุมัติรวย นายทุนยิ้ม ประชาชนจ่ายส่วนต่าง 68,000 ล้านบาท










