วันที่ 29 มิ.ย. ที่พรรคพลังประชารัฐ นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาทและประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคเหนือ แถลงข่าว กรณีมีข่าวว่าจะหลุดจากโผรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ส่วนนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จะถูกสลับเก้าอี้จากรัฐมนตรีพลังงานไปเป็นรัฐมนตรีอุตสาหกรรมว่า ตนคิดว่าท่านนายกรัฐมนตรีคงทราบดีถึงการทำงานของพวกตนที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพื่อช่วยให้เพื่อน ส.ส.ประสบความสำเร็จและเพื่อความสำเร็จของพรรค และที่สำคัญคือได้นายกรัฐมนตรีที่พรรคและประชาชนต้องการคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายอนุชา กล่าวต่อว่า พวกเราหลายภาคส่วนทำจนประสบความสำเร็จ ซึ่งผลมาจากองค์ประกอบที่สำคัญ 5 ประการ คือ 1.การที่พรรคเสนอผู้นำที่ดีในการชิงนายกฯ 2. การเงินของพรรค 3.การมีบุคลากรที่ดีในการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. 4. การมีนโยบายและยุทธศาสตร์ที่ดีในการหาเสียง และ 5.การจัดการบริหารงานของพรรคที่ต้องทำเป็นอย่างดี
ข้อ 1 และ 2 ตนไม่อาจเกี่ยวข้องได้มาก แต่ก่อนที่พวกตนจะเข้ามาอยู่ในพรรคก็ต้องตัดสินใจแล้วว่าเพื่อเห็น พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีอีกหนึ่งสมัย ส่วน ข้อ 3-5 พวกตนมีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินงานร่วมกับพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ และผู้บริหารจนประสบความสำเร็จ
“สื่อมวลชนก็ทราบดีว่า ผม-อนุชา นาคาศัย ทำงานในพรรคหนักขนาดไหน แต่ผมก็ไม่เคยคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญเพราะสิ่งที่ผมหวังไว้คือพรรคพลังประชารัฐ สามารถรวบรวมเสียงคะแนนข้างมากจัดตั้งรัฐบาลได้ พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกหนึ่งสมัย”
ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคเหนือ กล่าวว่า ตอนนี้มีข่าวหนาหูจะปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีเช่น กรณีของตน, น้องชายของ ร.อ.ธรรมนัส, นายสุชาติ ชมกลิ่น ที่หลุดจากตำแหน่ง ส่วนท่านสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อาจต้องสลับเก้าอี้จากกระทรวงพลังงานไปกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งอย่างที่ตนกล่าวไว้แล้วว่า ท่านนายกฯ เคยบอกกับหัวหน้าพรรคแล้วว่าโผครม.จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ท่านเป็นชายชาติทหาร พวกเราจึงมั่นใจในคำพูด
แต่หากเป็นไปตามกระแสข่าวตนคงเสียใจเป็นอย่างยิ่งแทนพี่ๆ น้องๆ ของตนที่ต้องหลุดโผหรือที่ต้องเปลี่ยนตำแหน่ง ส่วนตัวของตนถ้าจะถูกปรับออกก็ยินดี แต่ขออย่าเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของผู้ใดก็ดี โดยเฉพาะท่านสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่เป็นบุคคลที่มีคุณค่ามีความสามารถ ซึ่งถ้าท่านนายกฯ ได้ใช้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนร่วมงาน เพราะท่านเป็นคนเก่งจริงๆ ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้มากมาย
สำหรับการนำพรรคชาติพัฒนาที่มีเพียง 3 เสียงมาเป็นรัฐมนตรีแทนตำแหน่งของตนหรือคนอื่นๆ เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง เสมือนหนึ่งพวกตนไปรบจนชนะ พอกลับบ้าน แม่ทัพกลับไปนำศัตรูมาตัดหัวพวกตนทิ้ง ซึ่งตนไม่เชื่อว่าท่านนายกฯ เคยไปรับปากไว้ อาจเป็นบางกลุ่มในพรรคที่ไม่ต้องการให้ตนเป็นรัฐมนตรีไปเสนอ ซึ่งตนไม่รับตำแหน่งก็ได้ถ้าจำเป็น แต่ขอให้ท่านสุริยะเป็นรัฐมนตรีพลังงานตามที่ท่านนายกฯ ได้ลั่นวาจาไว้
นายอนุชา ยังกล่าวด้วยว่า ในพรรคมีกลุ่มที่คอยรังแกพวกตนอยู่ ไปให้ร้ายโจมตีต่อผู้ใหญ่ ใช้สื่อเสนอแต่เรื่องไม่ดีไม่จริง จนพวกตนเป็นบุคคลที่น่ารังเกียจ ถ้าโดนรังแกจนทนไม่ได้จะแฉข่าวดังระดับชาติ ทั้งนี้ ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ช่วยลงมาดูเรื่องภายในพรรคด้วย
https://www.youtube.com/watch?v=UfRKD1khgv0&feature=youtu.be
