คู่มือ เตรียมความพร้อมรับมืออันตรายในช่วงฤดูฝน

คู่มือ เตรียมความพร้อมรับมืออันตรายในช่วงฤดูฝน

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ว่า ในช่วงวันที่ 17 – 19 มิ.ย. เสี่ยงเกิดอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสมในภาคเหนือด้านตะวันตกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก อันตรายจากน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม ดั้งนั้นจำเป็นต้องเตรียมรับมือสถานการณ์ให้พร้อม

อันตรายจากน้ำท่วม

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มีข้อแนะนำการป้องกันอันตรายจากน้ำท่วม โดยให้ประชาชนติดตามสภาพอากาศและปริมาณน้ำในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง จัดสภาพแวดล้อมภายในบ้านเพื่อป้องกันและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากน้ำท่วม โดยการยกข้าวของขึ้นที่สูง เมื่อเกิดน้ำท่วมในบริเวณบ้านควรรีบตัดกระแสไฟฟ้า และอพยพไปอยู่ในสถานที่ปลอดภัย และจัดเตรียมข้าวของเครื่องใช้ ที่จำเป็นเมื่อเกิดอุทกภัย เช่น น้ำดื่ม อาหาร ยารักษาโรค ถ่านไฟฉาย เทียนไข นกหวีด เป็นต้น

อันตรายจากฟ้าผ่า

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณะสุข ได้มีวิธีการป้องกันอันตรายจากการถูกฟ้าผ่า โดยห้ามอยู่ใกล้หรือใช้อุปกรณ์ที่เป็นสื่อนำไฟฟ้า เช่น เครื่องมือการเกษตร โทรศัพท์สาธารณะ เพราะอุปกรณ์เหล่านี้มีส่วนประกอบที่เป็นแผ่นโลหะ ซึ่งเป็นสื่อนำไฟฟ้า ควรหลบในอาคารที่ติดตั้งสายล่อฟ้า จะช่วยป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่าได้ และไม่ควรใช้โทรศัพท์ เปิดคอมพิวเตอร์เล่นอินเตอร์เน็ต ดูโทรทัศน์ ฟังวิทยุ หรืออยู่ใกล้ประตู หน้าต่างที่มีส่วนประกอบเป็นโลหะในขณะฟ้าร้อง ฟ้าผ่า หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด เพราะกระแสไฟจากฟ้าผ่าอาจไหลผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้า ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหาย และเกิดอันตรายขึ้นได้ กรณีอยู่ในรถ ควรปิดกระจกทุกบาน หากฟ้าผ่าลงรถควรตั้งสติ ไม่ควรออกจากรถโดยเด็ดขาด เพราะกระแสไฟฟ้าที่ไหลตามผิวโลหะของตัวถังรถจะไหลลงสู่พื้นดิน หากออกนอกรถจะมีความเสี่ยงที่จะถูกฟ้าผ่าสูง ที่สำคัญอย่าสัมผัสส่วนที่เป็นโลหะ

อันตรายจากอุบัติเหตุบนท้องถนน

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้มีข้อแนะนำสำหรับ หากประชาชนมีความจำเป็นต้องขับขี่ยานพาหนะ ในขณะที่ฝนตก โดย ขอให้ประเมินสถานการณ์อย่างถี่ถ้วน เพื่อความปลอดภัย และปฏิบัติ โดย เปิดไฟหน้ารถ เพื่อช่วยให้มองเห็นชัดเจนขึ้น และให้รถคันอื่นมองเห็นได้จากระยะไกล เปิดใบปัดน้ำฝน และควรปรับระดับความเร็วใบปัดน้ำฝนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ลดความเร็ว เพื่อเพิ่มความระมัดระวังให้มากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะบริเวณทางโค้ง เพราะมีน้ำขัง และอาจทำให้รถลื่นไถลหรือเหินน้ำ ทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้าเพิ่มขึ้น เพราะสภาพถนนที่เปียกลื่น ต้องใช้ระยะห่างในการหยุดรถเพิ่มขึ้น หลีกเลี่ยงการแซง หากจำเป็น ต้องประเมินสถานการณ์หรือกะระยะทางข้างหน้าให้ปลอดภัย กรณีถนนลื่น หรือ รถลื่นไถล หรือ เหินน้ำ ห้ามเหยียบเบรกแรงๆ ให้รถหยุด เพราะอาจทำให้รถพลิกคว่ำ ควรลดความเร็ว ใช้เกียร์ต่ำ จนกว่ารถจะทรงตัวได้ หากต้องขับรถผ่านบริเวณน้ำท่วมขัง ขอให้หยุดรถและประเมินสถานการณ์ หากระดับน้ำสูงไม่ควรขับรถฝ่า

อันตรายต่อสุขภาพ

มีเชื้อโรคมากมายที่มากับฤดูฝน ทำให้หลายคนมีอาการไม่สบาย เช่น ไข้หวัด หรือโรคผิวหนัง ดังนั้นเมื่อฝนตก หรือมีน้ำท่วมขัง จึงไม่วารเดินลุยฝนด้วยเท้าเปล่า เพราะอาจได้รับบาดเจ็บจากสัตว์ หรือสิ่งของมีคมที่ถูกพัดพามา นอกจากนี้ยังอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรค เชื้อรา น้ำกัดเท้า โรคฉี่หนู เมื่อเดินตากฝน ถือถูกละอองฝน จำเป็นต้องสระผมทุกครั้ง โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส. กระทรวงสาธารณสุข ให้ข้อมูลว่า ในอากาศมีเชื้อไวรัสลอยอยู่ อาจทำให้เราเจ็บป่วย นอกจากนี้ร่างกายที่รับอากาศเย็นเป็นเวลานาน มีโอกาสเป็นหวัดได้ ที่ทำคัญเมื่อฝนตกอุณหภูมิเยื่อจมูกจะลดลง เชื้อไวรัสจะแพร่กระจาย ทำให้เกิดอาการอักเสบของเยื่อบุจมูก และควรอาบน้ำให้สะอาด เช็ดตัวให้แห้ง ทำร่างกายให้อบอุ่น เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง
คู่มือ เตรียมความพร้อมรับมืออันตรายในช่วงฤดูฝน