เรือโรฮิงญาเกยฝั่งอินโด พบเสียชีวิตอย่างน้อย 20 ศพ UN คาดปีนี้ดับแล้วกว่า 200 ชีวิต

เรือโรฮิงญาเกยฝั่งอินโด พบเสียชีวิตอย่างน้อย 20 ศพ UN คาดปีนี้ดับแล้วกว่า 200 ชีวิต

27 ธ.ค. 65 สำนักข่าวรอยเตอร์ในอินโดนีเซียรายงานว่าชาวโรฮิงญาอย่างน้อย 20 คน เสียชีวิตขณะเดินทางในทะเลเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ระบุว่า เมื่อวัน 27 ธ.ค. 65 เรือลำหนึ่งซึ่งบรรทุกผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาเกือบ 200 คนได้ลอยมาเกยชายฝั่งของอินโดนีเซีย และเชื่อว่าเรือผู้ลี้ภัยลำอื่นยังคงลอยลำอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย

เรือลำนี้ถูกคลื่นซัดเกยชายฝั่งของ จ.อาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันจันทร์ (26 ธ.ค.65) จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าหน่วยงานภัยพิบัติระบุว่า ผู้ลี้ภัยบนเรือหลายคนมีอาการขาดน้ำ เหนื่อยล้า และต้องการการรักษาพยาบาลอย่างเร่งด่วนหลังจากอยู่กลางทะเลนานหลายสัปดาห์

Chris Lewa จากโครงการอาระกันซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนการลี้ภัยชาวโรฮิงญา กล่าวว่า เรือที่เกยฝั่งดังกล่าวเป็นเรือลำเดียวกันกับที่มีรายงานการสูญหายและคาดว่าจะจมลงในทะเลก่อนหน้านี้  

สำนักข่าว VOA รายงานว่าทางการอินโดนีเซียยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดต่อเหตุการณ์ดังกล่าว จากการรายงานของสำนักข่าว VOA 

องค์การสหประชาชาติ (UN) ระบุว่า ในปี 2565 เป็นอีกหนึ่งปีที่เลวร้ายที่สุดของชาวโรฮิงญา หลังจากเหตุการณ์ในปี 2566 และปี 2557 โดยคาดว่ามีชาวโรฮิงญากว่า 200 คนต้องเสียชีวิตกลางทะเลในปีนี้

สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) แถลงการณ์ในวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ปี 2565 เป็นถือเป็นหนึ่งในปีที่ชาวโรฮิงญาได้รับอันตรายกลางทะเลมากที่สุดเทียบกับช่วงเวลาเกือบทศวรรษที่ผ่านมา เนื่องจากชาวโรฮิงญามีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะต้องการหลบหนีสภาพที่แร้นแค้นของค่ายผู้ลี้ภัยในบังคลาเทศ

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาชาวโรฮิงยาถูกกดขี่ในประเทศพม่าที่คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ทำให้ชาวโรฮิงญาต้องหลบหนีไปยังประเทศต่าง ๆ ทั้งไทย มาเลเซีย หรืออินโดนีเซียซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม และจะอพยพในช่วงเดือนพ.ย.-เม.ย. ซึ่งเป็นช่วงที่ทะเลสงบ

องค์กรสิทธิได้บันทึกตัวเลขผู้ลี้ภัยที่หนีออกจากค่ายกักกัน พบว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากเดิมอยู่ที่ 500 คนในปีที่ผ่านมาเพิ่มเป็น 2,400 คนในปีนี้ แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ตัวเลขการอพยพเพิ่มมากขึ้น นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิบางคนเชื่อว่าการคลายมาตรการโควิด-19 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้อพยพ 

ด้านแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล ได้เร่งรัฐบาลชาติต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกฉียงใต้ให้ค้นหาเรือชาวโรฮิงญาในน่านน้ำและให้ความช่วยเหลือตามมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน หลังมีรายงานชาวโรฮิงญานับแสนยังคงเผชิญกับความเสี่ยงในการอพยพย้ายถิ่นฐาน และการถูกปฏิบัติอย่างไร้มนุษยธรรมในค่ายกักกันภายใต้การควบคุมของรัฐบาลทหารเมียนมาร์ จนตัวเลขการอพยพเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง
PipatpongWriterPipatpong
ผู้สื่อข่าวไทยสายการเมือง และสิทธิ เราเขียนเพื่อการพัฒนา และใช้ทั้งชีวิตอยู่กับตัวอักษร บางวันนอนหลับคาข่าว

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง
เรือโรฮิงญาเกยฝั่งอินโด พบเสียชีวิตอย่างน้อย 20 ศพ UN คาดปีนี้ดับแล้วกว่า 200 ชีวิต