หลังจากที่รัฐบาลเปิดให้ลงทะเบียนโครงการ “ชิมช้อปใช้” เพื่อจะได้สิทธิ์รับเงินผ่านแอพลิเคชั่น “เป๋าตัง” (G-Wallet) 1,000 บาท ใช้ชำระสินค้าและค่าบริการได้กับร้านค้าที่ร่วมโครงการ
ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ ได้รับข้อมูลจากผู้ร่วมโครงการนี้ ที่ตัดสินใจใช้สิทธิ์ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งว่า ไม่ง่ายเลยเพราะความจำกัดของเครื่องสแกน ที่ในสาขามีเพียงเครื่องเดียวทำให้ต้องรอคิวนานกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที
ผู้ได้สิทธิ์ “ชิมช้อปใช้” ได้สรุปเรื่องราวผ่านด่านต่างๆ กว่าจะถึงปลายทาง “ชิมช้อปใช้” ไว้ดังนี้
1. อดหลับอดนอน เน็ตต้องแรง ลงทะเบียนกลางดึก ชิงแชมป์ 1 ในล้าน ในแต่ละวัน
2. รอ 3 วันเพื่อรับข้อความโชคดีได้ไปต่อ เข้ารอบต่อไปสู่แอพฯ เป๋าตัง
3. ยืนยันตัวตนผ่านแอพฯ เป๋าตัง ถ่ายรูปบัตรประชาชนอีกรอบ สแกนหน้าให้ตรงบัตร หากไม่ผ่านหน้าไม่ตรงบัตร ใน 3 รอบ ต้องนั่งรถไปต่อคิวแบงก์กรุงไทย ให้เจ้าหน้าที่ช่วยลงทะเบียน
4. ยืนยันตัวตนแอพฯ ผ่าน อย่าใจร้อนรีบไปห้างหรือไปเที่ยว ใช้เงินได้อีกที คือวันถัดไป
ผู้ได้สิทธิ์ “ชิมช้อปใช้” เล่าว่า ถึงจุดนี้มั่นใจว่า สามารถใช้สิทธิ์ได้โดยปลอดโปร่งไม่เจออุปสรรคใดๆ แต่ชีวิตจริงไม่ง่ายขนาดนั้น วันที่ 3 ต.ค. หลังเลิกงานเธอไปใช้สิทธิ์ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาลาดพร้าว
5. มาถึงห้างฯ แห่งหนึ่ง สาขาลาดพร้าว เซอร์ไพรส์ห้ามเข้าซื้อของทันที ต้องต่อแถวยาวเหยียดอีกรอบ เพื่อลงทะเบียนแลกคูปอง (งงหนักมาก) เริ่มต่อแถวช่วง 18.30น. หางแถวยาวประมาณ 400 เมตร
6. ถึงจุดลงทะเบียน 19.58 น. (รวมเข้าแถวประมาณ 1.30 ชม.) ต้องสแกนคิวอาร์โค้ดอีกรอบ เพื่อแลกคูปองตามยอดเงินที่ต้องการแลก ซึ่งเครื่องสแกนสาขานี้มีเพียงเครื่องเดียว ต่อลูกค้ายืนรอนับร้อยคน
7.สแกนจบ รับคูปอง ต้องเขียนชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชนอีกรอบ แล้วนำคูปองตามจำนวนที่แลก ใช้ให้หมดสาขานี้ ภายในวันนี้ เช่นใช้สิทธิ์ 500 บาท จาก 1,000 บาท ก็ต้องใช้ให้หมด 500
8. ถือคูปองไปซื้อของได้ หลังผ่านขั้นตอนเกือบ 2 ชั่วโมง เหลือเวลาก่อนห้างปิดอีก 2 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้สิทธิ์บางคนต้องโชคร้ายเพราะ
9. เวลา 20.29 น. ห้างประกาศระบบของห้างขัดข้อง ชิมช้อปใช้ หยุดให้บริการชั่วคราว ขออภัยลูกค้า ให้มาใหม่พรุ่งได้ ตั้งแต่ 08.00
ทั้งนี้ ฝ่ายสื่อสารองค์กรของห้างสรรพสินค้าดังกล่าวชี้แจงข้อจำกัดว่า ทุกสาขาจะมีเครื่องที่ชำระเงินในโครงการ “ชิมช้อปใช้” ได้เครื่องเดียว เพราะใน 1 บริษัทจะได้สูงสุดแค่ 20 เครื่อง ซึ่งห้างสรรพสินค้าต้องกระจายไปยังสาขาต่างๆ และที่ผ่านมาแก้ไขปัญหาโดยจะเปิดช่องชำระเงินมากกว่า 1 ช่อง และให้พนักงานถือแท็บเล็ต วิ่งไปมาระหว่างช่องชำระเงิน
