
วันที่ 16 พ.ค. ฝ่ายภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ชี้แจง กรณีสื่อสังคมออนไลน์ระบุว่า พนักงานการบินไทยโดยเฉพาะกลุ่มนักบินได้ตั๋วบินฟรีในเส้นทางต่างประเทศคนละ 7 ใบต่อปี เส้นทางภายในประเทศคนละ 7 ใบต่อปี และคณะกรรมการบริษัทฯ ได้สิทธิ์ตั๋วฟรีชั้นหนึ่ง โดยยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
คำชี้แจง ระบุว่า สิทธิสวัสดิการด้านบัตรโดยสารของพนักงานสายการบิน จัดเป็นสวัสดิการพื้นฐานที่สายการบินทั่วโลกปฏิบัติกันเป็นปกติ แต่ละสายการบินจะมีข้อกำหนดและเงื่อนไขแตกต่างกันไป
บริษัท การบินไทยฯ ให้สิทธิบัตรโดยสารฟรี และบัตรโดยสารลดราคาตามมาตรฐานเดียวกับสายการบินสมาชิก STAR ALLIANCE แก่พนักงาน คู่สมรส และบุตรที่ยังมิได้สมรส อายุต่ำกว่า 25 ปี และผู้บริหารระดับผู้อำนวยการใหญ่ขึ้นไป จะได้รับสิทธิ์ให้แก่บุตรที่ยังมิได้สมรส อายุต่ำกว่า 35 ปี โดยพนักงานไม่ได้รับบัตรโดยสารฟรีเป็นจำนวนปีละ 7 ใบ ตามที่เป็นข่าว

นอกจากนั้นบัตรโดยสารแต่ละใบ พนักงานเป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมการออกบัตรโดยสาร ค่าภาษีสนามบิน และภาษีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางด้วยตนเอง รวมทั้งบัตรโดยสารดังกล่าวเป็นบัตรโดยสารประเภทสำรองที่นั่งไม่ได้ ซึ่งพนักงานจะสามารถเดินทางได้ เฉพาะกรณีเที่ยวบินมีที่นั่งว่างเหลือจากการจำหน่ายให้ผู้โดยสารแล้วเท่านั้น หากที่นั่งบนเที่ยวบินเต็มพนักงานจะถูกปฏิเสธการเดินทางในเที่ยวบินนั้นๆ
ในส่วนของคณะกรรมการบริษัทฯ และครอบครัว บริษัทฯ ขอยืนยันว่าไม่ได้รับสิทธิบัตรโดยสารฟรี และสิทธิประโยชน์ใดๆ ทั้งนี้ เป็นไปตามมติคณะกรรมการบริษัทฯ และผลการประชุมจากคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจในปี 2557 ให้ยกเลิกสิทธิประโยชน์ในรูปแบบผลิตภัณฑ์หรือบริการของรัฐวิสาหกิจและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ

ต่อมาการบินไทยชี้แจงเพิ่มเติมกรณีคณะกรรมการบริษัทฯ ไม่มีมติยื่นศาลล้มละลาย โดยระบุว่า
ตามที่ ปรากฏเป็นข่าวในสื่อบางฉบับ และในสื่อสังคมออนไลน์ว่า การประชุมคณะกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 15 พ.ค. มีมติ “ยื่นศาลล้มละลาย” นั้น บริษัทฯ ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง
บริษัทฯ ได้ดำเนินการจัดทำแผนฟื้นฟูแล้วเสร็จ และผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ซึ่งคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ได้พิจารณาแผนฟื้นฟูดังกล่าว เมื่อวันที่ 29 เม.ย. โดยขณะนี้แผนฟื้นฟูของบริษัทฯ อยู่ระหว่างนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณากำหนดแนวทางการฟื้นฟูต่อไป
ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอยืนยันว่ามติคณะกรรมการบริษัทฯ ไม่เป็นไปตามข่าวที่นำเสนอแต่อย่างใด