‘ไทย’ จ่อเป็นฐานผลิตรถยนต์สำคัญของภูมิภาค ยอดแตะ 2.5 ล้านคันในปี 2030

‘ไทย’ จ่อเป็นฐานผลิตรถยนต์สำคัญของภูมิภาค ยอดแตะ 2.5 ล้านคันในปี 2030

สถาบันยานยนต์ เปิดเผยการคาดการณ์ว่าไทยจะผลิตยานยนต์ได้ 2.5 ล้านคันภายในปี 2030 โดยราว 200,000 คันเป็นยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี (BEV)

เมื่อวันที่ 2 ก.ย.62 นายอดิศักดิ์ โรหิตะศุน รักษาการผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าว ณ การประชุมในกรุงเทพฯ ว่าไทยสามารถผลิตยานยนต์ได้ราว 2 ล้านคันต่อปีแล้ว ซึ่งทั้งหมดเป็นยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน โดยไทยจะกลายเป็นฐานการผลิตยานยนต์ทันสมัยที่มีความสำคัญระดับภูมิภาคภายในปี 2030

 

“ไทยจะผลิตยานยนต์ 2.5 ล้านคันต่อปี โดยราว 1.5 ล้านคันจะจัดจำหน่ายแก่ตลาดภายในประเทศ” นายอดิศักดิ์ กล่าว

 

นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า ยานยนต์ภายในประเทศ 1.5 ล้านคันดังกล่าวจะแบ่งเป็นยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ 225,000 คันหรือคิดเป็นร้อยละ 15 และอีกร้อยละ 60 เป็นยานยนต์เครื่องยนต์เบนซินและยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ

ขณะเดียวกัน นายอดิศักดิ์กล่าวว่า ยานยนต์เพื่อการขนส่งสาธารณะอย่างรถโดยสารประจำทางหรือรถเมล์ รถสามล้อตุ๊กตุ๊ก และรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง จะกลายเป็นยานยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าด้วย

ทั้งนี้ ปัจจุบันมียานยนต์วิ่งบนท้องถนนราว 15 ล้านคัน และกระทรวงพลังงานคาดการณ์ว่าไทยจะมียานยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรีและยานยนต์ไฟฟ้าไฮบริดปลั๊กอิน 1.2 ล้านคันภายในปี 2036

 

นอกจากนั้น มูลค่าการผลิตและการบริการยานยนต์ของโลกจะแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 31 ล้านล้านบาท) ในปี 2030 ซึ่งไทยจะแสวงหาหนทางยกระดับตัวเองเพื่อร่วมตักตวงผลประโยชน์จากการเติบโตดังกล่าว

ทั้งนี้ สถาบันยานยนต์แห่งประเทศไทยยังนำเสนอมาตรการต่างๆ อาทิ การปรับโครงสร้างภาษียานยนต์และการสร้างแรงจูงใจเพื่อเพิ่มการใช้งานยานยนต์พลังงานสะอาดในหมู่ประชาชน

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง