‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์’ แจมคลับเฮาส์ ให้กำลังใจคนไทยอย่าท้อ ชี้วลีไม่รักชาติ ตกยุคไปแล้ว รับถ้าคิดว่าต้องอยู่ประเทศไทยเท่านั้นคงทุกข์ตาย เหน็บ ‘วิษณุ’ พลาดที่เคยชวนมาร่วมงาน อัดใช้กฎหมายน่ารังเกียจ
วันที่ 5 พ.ค. 2564 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งใช้ชื่อว่า Tony Woodsome กล่าวผ่านคลับเฮาส์ถึงประเด็นย้ายประเทศกันเถอะในเพจเฟซบุ๊กว่า ตกใจเหมือนกัน 4 วัน 7 แสนคน เราไม่พยายามจะเข้าใจประชาชน โดยเฉพาะเจเนอเรชั่น Z และ Y วิธีคิดเขามันไม่เหมือนเรา มีอำนาจจะใช้แต่อำนาจ ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไปเข้าใจ คนที่อยู่ใน 7 แสนอายุ 25-35 ปีเยอะ หากมองย้อนไปสมัยเด็กๆ มีโรบินฮู้ดไปอยู่สหรัฐอเมริกาเยอะ บินไปเป็นนักท่องเที่ยวและก็อยู่จนได้กรีนการ์ด มีลูกหลานเรียนอยู่เมืองนอก มีทุกประเทศ เพราะทุกคนเกิดมาแล้วจะดิ้นรนเพื่ออนาคตตัวเอง หากดิ้นรนแล้วไทยไม่มีหนทางให้เขา สมัยนี้เขามีข้อมูลมากกว่าสมัยก่อน บางประเทศสังคมเขามีคนแก่เยอะ ไม่มีวัยแรงงาน เขาก็อยากได้ ก็เป็นช่องว่างให้เขาคิดว่าไปทำงานที่นั่นดีกว่าหรือไม่ เช่น สวีเดนก็ยินดีต้อนรับ ยูเออีวีซ่าให้ง่ายมาก เพราะประชากรเขามีไม่มาก แต่เขาต้องการประชากรต่างชาติมาสร้างเศรษฐกิจให้เขา ไทยมีประชากรเยอะ แต่เราชะลอเศรษฐกิจ ไม่รู้ตั้งใจหรือไม่ หรือทำไม่เป็นหรือเปล่าก็ไม่รู้ ทำให้เด็กคิดว่าจะทำอย่างไร คนจึงคิดตั้งกรุ๊ปทำเล่นๆ แต่กระแสมาจริง โลกการทำมาหากินในโลกยุคใหม่มีสารพัดอย่าง เด็กก็คิดแล้ว ศึกษาแล้วว่าจะไปทำอะไรที่เขามีอนาคต
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า อย่าโทษใคร เราต้องทำเศรษฐกิจให้ดี สร้างอนาคตให้กับเขา ปกติไม่มีใครอยากจากบ้านเกิด แต่ถ้าไม่มีช่องทางก็ต้องไป อย่างทฤษฎีเพื่อความอยู่รอดของมนุษย์ เป็นเรื่องที่เป็นธรรมชาติ แต่ต้องทำความเข้าใจ สร้างเศรษฐกิจให้เขาเห็นอนาคต วันนี้จีดีพีโตแค่นี้ เด็กจบใหม่ตกงานหมด จีดีพีประเทศไทยต้องโตอย่างน้อย 4.5-5% จึงจะรองรับคนจบใหม่ คนจะตกงานอีกเยอะ เขาไม่มีอนาคตก็ดิ้นรนไป ต้องพยายามเข้าใจ อย่าไปมองว่าไม่รักชาติ บ้าไปแล้ว คำพูดนั้นมันตกยุค ต้องเข้าใจว่าเจเนอเรชั่นนี้เขาคิดอย่างไร เด็กยุคนี้อย่าไปโกหกเขา ทำผิดไม่เป็นไร และอย่าไปก้าวล่วงชีวิตส่วนตัว วิธีคิดมันต่างกัน อย่างไรก็ตาม โชคดีที่เรามีนายกฯ เป็นนักแต่งเพลง จึงมีชื่อเพราะๆ เยอะแยะไปหมด ไทยชนะ หมอชนะ เราชนะ แล้วตกลงใครชนะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่เปิดให้ผู้ร่วมสนทนาได้ซักถามนั้น มีผู้ร่วมสนทนารายหนึ่งถามว่า อยากจะกลับประเทศไทยหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า อยู่ที่คำจำกัดความ หากคิดว่าต้องอยู่ไทยเท่านั้น เราทุกข์ตายเลย หากบอกว่าโลกทั้งโลกคือบ้าน ก็เข้าที เป็นเรื่องที่ความทุกข์เหล่านี้ก็หมดไป ตนก็ตั้งหน้าตั้งตาหาเลี้ยงชีพไป
เมื่อถามถึงเรื่องการตั้งประเทศใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เรื่องตั้งประเทศต้องเข้าใจว่า โลกทั้งโลกถูกยึดครองไปหมดแล้ว มันไม่มีที่ว่างที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของเลย นอกจากไปเฉือนประเทศเขามา ซึ่งไม่มีใครเฉือนให้หรอก เขาจะมีปัญหากับคนในประเทศว่าไม่ปกป้องดินแดน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะซื้อประเทศใหม่ ถามว่าเป็นไปได้ไหม บางประเทศ 2-3 หมื่นคนก็มี
ส่วนหากยังเป็นนายกรัฐมนตรีจะทำอย่างไรให้คนรุ่นใหม่เข้าใจนั้น นายทักษิณ กล่าวว่า ถ้าตนเป็นนายกฯ คงไม่มีปัญหานี้เกิดขึ้น คงไม่ปล่อยให้เศรษฐกิจเป็นอย่างนี้ และไม่ปล่อยให้คนต้องอดตาย ฆ่าตัวตาย ตนไม่ปล่อยแน่ เราต้องคิดกับคนรุ่นใหม่ ไม่ใช่รุ่นเราอายุ 60 กว่ามาคุยกัน มันไม่ทัน ทั้งนี้ ต้องคิดด้วยสติ อย่ามีโลภ โกรธ หลง แล้วก็อย่าเสียใจกับมัน สู้กับมันไปให้สุด
เมื่อถามว่า เมื่อไหร่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะมาร่วมพูดคุยในคลับเฮาส์ด้วย ปรากฏว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เข้ามาร่วมทักทายทันที พร้อมกับระบุว่า มาช่วยจัดไฟให้ เพราะช่วงนี้ตกงาน อย่างไรก็ตาม เป็นห่วงพี่น้องประชาชนเรื่องโรคระบาดโควิด-19 อยากให้กำลังใจ ทุกคนอย่าท้อ หดหู่แต่อย่าท้อ อย่างน้อยที่รอวัคซีนที่ไม่รู้จะมาเมื่อไหร่ กลุ่มเสี่ยงต่างๆ ดูแลรักษาสุขภาพตัวเอง ป้องกันตัวเองเยอะๆ การ์ดอย่าตก หดหู่ได้แต่ต้องมีความหวัง สุขภาพแข็งแรง
ส่วนคิดอย่างไรกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีนั้น นายทักษิณ กล่าวว่า เสียดาย นายวิษณุอุตส่าห์ไปเรียนมหาวิทยาลัยเบิร์กลีย์ การใช้กฎหมายของท่านน่ารังเกียจมาก เสียดายที่ชวนจากเลขาคณะรัฐมนตรีมาเป็นรองนายกรัฐมนตรี ตนพลาดมาก ตนผิดไปแล้ว ต้องขอโทษด้วยถ้าใครไม่ชอบเขา
