ttb reserve ขึ้นแท่นบัตรเครดิตที่แลกพอยต์ได้คุ้มค่าที่สุดในไทย ทุกการใช้งาน 10 บาท รับทันที 1 พอยต์ พร้อมเจาะกลุ่มลูกค้าเวลธ์ต่อเนื่อง ตั้งเป้าฐานลูกค้าเติบโตแตะ 50,000 ราย
ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือ ttb เพิ่งเปิดตัวบัตรเครดิต ttb reserve สำหรับกลุ่มลูกค้ามีความมั่งคั่งสูงไปได้ไม่นานแต่สามารถโกยฐานลูกค้าได้กว่า 40,000 รายแล้ว ด้วยจุดเด่นเรื่อง ‘พอยต์’ ที่ทั้งแจกและแลกได้คุ้มค่าที่สุดในไทยตอนนี้
‘ฐากร ปิยะพันธ์’ ผู้จัดการใหญ่ และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต บอกว่า บัตรเครดิตttb reserve ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด ‘Earn Fast – Burn Smart’ รับคะแนนเร็ว แลกคะแนนคุ้มค่า ทั้งด้านการเงิน การลงทุน และไลฟ์สไตล์ที่ลูกค้าสามารถเลือกได้เอง และใช้ได้จริงตามที่ลูกค้าต้องการ
เพียงเปิดใช้งานบัตรลูกค้าจะได้รับคะแนนสะสมพิเศษรายปีสูงสุด 180,000 คะแนน โดยไม่ต้องมีการใช้จ่ายผ่านบัตรและทุกการใช้จ่าย 10 บาท รับ 1 คะแนน (ซึ่งบัตรทั่วไป 25 บาท รับ 1 คะแนน) และรับมากขึ้นเป็น 2 เท่า สำหรับจ่ายออนไลน์ และโรงพยาบาล เทียบเท่า 5 บาทรับ 1 คะแนน
นอกจากนี้ ลูกค้าสามารถนำคะแนนไปต่อยอดแลกรับสิทธิพิเศษด้านการลงทุนได้อีก เช่น ใช้เพียง 10,000 คะแนนแลกเป็นเงินลงทุนในรูปแบบเครดิตเงินคืนได้ 1,200 บาท หรือแลกเป็นเครดิตเงินคืน 1,000 บาท และยังแลกเป็นส่วนลดประกันได้อีกด้วย
หรือจะใช้คะแนนแลกเป็นของกำนัลจากแคตตาล็อกพิเศษของ ttb reserve ที่มีบริการให้เลือกหลากหลาย เช่น ลีมูซีนรับส่งสนามบิน แพคเกจตรวจสุขภาพ สปา กรีนฟีสนามกอล์ฟ และของกำนัลพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ ยังมีสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับผู้ถือครองบัตร เช่น ฟรีค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงินต่างประเทศ 2.5% รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 50% กับร้านอาหาร Fine Dining ชั้นนำกว่า 20 ร้าน ฯลฯ
‘เรายอมลดมาร์จิ้นลงมาน้อยลงเพื่อให้ลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์มากขึ้น ปัจจุบันเราแจกไปแล้ว 4,700 ล้านคะแนน มีลูกค้าแลกสิทธิประโยชน์ไปแล้ว กว่า 1,000 ล้านคะแนน’
จากการเปิดตัวบัตรเครดิต ttb reserve เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันบัตรเครดิต ttb reserve มีฐานลูกค้า 40,000 รายโดยมีมูลค่า AUM กว่า 5 แสนล้านบาท และคาดว่าจะมีลูกค้าถือครองบัตรเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 รายภายในครึ่งปี2567
สำหรับตลาดลูกค้าที่มีความมั่งคั่งสูง พบว่า เทรนด์คนรวยในไทยมีความมั่นคั่งเพิ่มขึ้นหลังโควิด-19 แต่ความมั่งคั่งยังค่อนข้างกระจุกตัว โดยจำนวนประชากรที่มีสินทรัพย์มากกว่า 50 ล้านบาท มีเพียง 37,000 รายเท่านั้น เฉลี่ยมีความมั่งคั่งราว 240 ล้านบาท
อีกเทรนด์ที่น่าสนใจคือ กลุ่มคนที่มีความมั่งคั่งสูงเริ่มมีอายุน้อยลง (Young Wealth) โดยคนกลุ่มนี้มีสัดส่วนสูงถึง40% ของกลุ่มประชากรที่มีความมั่งคั่งทั้งหมด อายุประมาณ 40-50 ปีตอนปลาย










