วันที่ 23 กันยายน 2562 มีการประชุม the Climate Action Summit จัดโดยองค์การสหประชาชาติ ทีมข่าวเวิร์คพอยท์สรุปเหตุการณ์สำคัญมาดูกัน
1. เกรต้า ธันเบิร์ก นักสิ่งแวดล้อมวัย 16 ปี กล่าวสุนทรพจน์ “กล้าดีอย่างไร” ที่สร้างแรงสะเทือนไปทั่วโลก
หลังกล่าวสุนทรพจน์ก็ไม่รอช้า ร่วมกับนักต่อสู้เยาวชนเพื่อสิ่งแวดล้อมจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกอีก ยื่นฟ้องประเทศ 5 ประเทศ คือ เยอรมัน ฝรั่งเศส บราซิล อาร์เจนติน่า และตุรกี ทันที ในข้อหาละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยไม่กระทำการแก้ไขปัญหาด้านสภาพแวดล้อม ซึ่งที่เป็น 5 ประเทศนี้เพราะเป็นไม่กี่ประเทศที่กฎหมายเปิดช่องให้มีการฟ้องร้องประเด็นดังกล่าวได้ภายใต้กฎหมายสิทธิเด็ก
2.อันโตนิโอ กูเตเรส (António Guterres) เลขาธิการสหประชาชาติร้องขอให้รัฐบาลนำเสนอแผนปฏิบัติการต่อพื้นที่ที่มีอัตราการปล่อยคาร์บอนและการตัดไม้ทำลายป่าสูง เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ยุติการปล่อยแก๊สเรือนกระจกทั้งหมดภายในปี 2050
ข้อขอร้องนี้ได้รับการตอบสนองอย่างดี รัฐบาล 66 ประเทศ, บริษัท 93 แห่ง และเมืองอีก 100 เมือง ประกาศว่าจะร่วมเข้าแผนนี้
รัฐมนตรีกระทรวงแวดล้อมญี่ปุ่นบอกว่าจะทำให้การอนุรักษ์เป็นเรื่อง “เซ็กซี่”
บริษัทต่าง ๆ ประกาศนโยบายในการลดคาร์บอน ผ่านการขนย้ายสินค้า การสร้างอาคาร และอื่นๆ
จีนและสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเจ้าใหญ่ที่สุดไม่เข้าร่วมแผนนี้ ส่วนอินเดียก็ปฏิเสธเหมือนกัน โดยนเรทรา โมดี้ นายกรัฐมนตรีอินเดียสัญญาว่าจะเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้ถึง 450 กิกะวัตต์ ก่อนปี 2030 แทน
3. รัฐบาล 59 ประเทศสัญญาว่าจะเร่งทำตามข้อกำหนดปารีส เพื่อรักษาอุณหภูมิของโลกให้ใกล้เคียงของเดิม
เรื่องนี้ นาธาเนียล เคโอฮาน ประธานกองทุนป้องกันสิ่งแวดล้อมแซะผู้นำทั้งหลายว่า คงจะดีกว่านี้หากคำสัญญาพวกนี้เปลี่ยนเป็นการลงมือทำ
ส่วนรัสเซียให้สัตยาบันข้อตกลงปารีสในที่สุด แต่ตั้งเป้าไว้ต่ำมาก
ทรัมป์ที่ประกาศถอนตัวจากสนธิสัญญาปารีสตั้งแต่วันแรก ๆ ของการเลือกตั้ง แวะเข้าชมงานด้วย แม้จะเป็นเวลาสั้น ๆ เป็นที่มาของมีมเกรต้ามองแรงทรัมป์
4. กระแสการยุติพลังงานถ่านหินก็มาแรง ในการประชุมครั้งนี้ เยอรมันและสโลวาเกีย เข้าร่วมกลุ่ม 32 ประเทศประกาศจะยุติการใช้พลังงานถ่านหินแล้ว
อินเดียเป็นหนึ่งในประเทศที่ไม่ได้เข้าร่วม เพราะเพิ่มอนุมัติงบให้โรงไฟฟ้าถ่านหินเพิ่ม
บรรยากาศภายในงาน UN Climate Summit 2019
5. บ่ายวันเดียวกันมีการประชุม CEO ของกลุ่มบริษัทพลังงานโลก ซึ่งจัดโดย แผนงานภูมิอากาศด้านน้ำมันและแก๊ส(the Oil and Gas Climate Initiative) ด้วย
ExxonMobil, Royal Dutch Shell และ BP สัญญาว่าจะลดก๊าซมีเทน และวิจัยให้ทำงานโดยกระทบโลกน้อยกว่านี้ เช่น หาวิธีการดักคาร์บอน
แต่บริษัทพลังงานทั้งหายก็ก็ยอมรับว่ายังมีแผนในการขุดเจาะใช้ทรัพยากรน้ำมันต่อไป
