ตัวต่อสีสันสดใสที่หลายคนคุ้นมาตั้งแต่เด็ก อย่าง ‘LEGO’ แม้รูปลักษณ์ภายนอกจะคงเดิมมานานหลายทศวรรษ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือวัสดุที่นำมาผลิต และความคิดของบริษัทที่ต้องการเติบโตไปพร้อมกับเด็กๆ รุ่นใหม่
เพราะในยุคที่ของเล่นไม่ได้มีหน้าที่แค่ให้ความสนุกอีกต่อไป LEGO เชื่อว่าการเล่นสามารถสร้างโลก ได้จริง ทั้งในแง่การสร้างสรรค์ และการปลูกฝังจิตสำนึกเรื่องสิ่งแวดล้อมตั้งแต่วัยเยาว์
จากตัวต่อพลาสติก สู่ห่วงโซ่ที่ยั่งยืน
เบื้องหลังของเล่นที่ดูเหมือนจะเรียบง่าย LEGO กำลังปรับระบบผลิตครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยการเปลี่ยนห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดให้ลดการพึ่งพาวัตถุดิบจากฟอสซิล และตั้งเป้าใช้วัสดุจากแหล่งยั่งยืน 100% ภายในปี 2032
LEGO ประกาศว่ากว่าครึ่งของวัสดุที่ซื้อมาในปี 2024 มาจากแหล่งยั่งยืน โดยเฉพาะ ‘เรซิน’ ซึ่งเป็นหัวใจของการผลิตตัวต่อกว่า 47% เป็นไปตามหลักการแบบ mass balance ซึ่งคือการติดตามวัตถุดิบทั้งหมดที่เข้าและออกจากกระบวนการผลิต
ในอีกด้านหนึ่ง LEGO ยังพัฒนาวัสดุทางเลือกใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น พลาสติกชีวภาพ Bio-polyethylene (Bio-PE) ที่ทำจากอ้อย ใช้ทำเป็นตัวต่อรูปไม้ ต้นไม้ และพุ่มไม้ในชุดของเล่น หรือ Recycled tyres ที่ผลิตจากเชือกประมงและน้ำมันเก่า รวมถึงบรรจุภัณฑ์จากกระดาษยั่งยืนซึ่งค่อยๆ เข้ามาแทนถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว
ก่อนหน้านี้ พวกเขายังเคยพยายามทดลองใช้ขวด PET รีไซเคิลมาทำตัวต่อ แต่สุดท้ายก็ต้องเลือกจะไม่เดินหน้าต่อ หลังพบว่ากระบวนการดังกล่าวสร้างคาร์บอนมากกว่าที่คาด เพราะสำหรับบริษัทนี้ ‘ความยั่งยืน’ ไม่ใช่การเปลี่ยนเพื่อภาพลักษณ์ แต่ต้องเปลี่ยนอย่างที่โลกได้ประโยชน์จริง
เล่นไป เรียนรู้ไป พร้อมกับโลกที่เปลี่ยนไป
LEGO มองว่า การเล่นไม่ใช่แค่การสร้างสรรค์จินตนาการ แต่คือการสร้างวิธีคิด เพราะทุกครั้งที่เด็กต่อชิ้นส่วนหนึ่งเข้าอีกชิ้นหนึ่ง คือการเรียนรู้เรื่องความสัมพันธ์ ระเบียบ และผลลัพธ์จากการกระทำของตัวเอง แนวคิดเดียวกันกับที่โลกต้องการให้เกิดขึ้นในเรื่องสิ่งแวดล้อม
ผลการสำรวจของบริษัทเผยว่า กว่า 83% ของเด็กอายุ 5–12 ปี ให้ความสนใจเรื่องการปกป้องสิ่งแวดล้อม และ 94% ของผู้ปกครอง เห็นว่าการเล่นช่วยให้ลูกเข้าใจเรื่องความยั่งยืนได้ดีกว่าการเรียนในห้อง
ตัวเลขเหล่านี้ยืนยันว่าการเล่น ไม่ใช่แค่ความบันเทิง แต่มันคือภาษาสากลที่เชื่อมให้เด็กเข้าใจโลกแห่งความเป็นจริง
ด้วยเหตุนี้ LEGO จึงตั้งใจให้ของเล่นทุกชิ้นกลายเป็นบทเรียนขนาดย่อม ไม่ว่าจะเป็นรถรีไซเคิล กังหันลม สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า หรือเมืองจำลองที่มีสวนสีเขียว ทั้งหมดได้รับการออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้เด็กเห็นภาพว่า โลกที่ยั่งยืนหน้าตาเป็นอย่างไร และพวกเขามีส่วนสร้างมันได้อย่างไร
เพราะสำหรับพวกเขา “การเล่นคือจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ และการเรียนรู้คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงโลก” ดังนั้นความยั่งยืนจึงไม่ใช่สิ่งที่เด็กต้องเรียนรู้ในอนาคต แต่เป็นสิ่งที่เขาสามารถ ‘เล่น’ และ ‘เข้าใจ’ ได้ตั้งแต่วันนี้
ความยั่งยืน สามารถมาพร้อมกับความเติบโต
ในขณะที่หลายบริษัทมองความยั่งยืนเป็นต้นทุน LEGO กลับพิสูจน์ให้เห็นว่า แท้จริงแล้วมันคือพลังขับเคลื่อนการเติบโต
ปี 2024 LEGO รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา รายได้รวมเพิ่มขึ้นกว่า 13%, ยอดขายผู้บริโภคเพิ่ม 14%, และกำไรจากการดำเนินงานพุ่งถึง 26% จากปีก่อนหน้า พร้อมกับการเพิ่มสัดส่วนวัสดุยั่งยืนในห่วงโซ่การผลิตเป็นมากกว่าครึ่งเป็นครั้งแรก
เบื้องหลังตัวเลขเหล่านี้คือการลงทุนเชิงกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นเกือบ 70% ภายในปีเดียว LEGO ได้เดินหน้าสร้างโรงงานแห่งใหม่ในเวียดนาม และรัฐเวอร์จิเนีย ของสหรัฐฯ ตั้งเป้าให้ใช้พลังงานสะอาดทั้งหมดภายในปี 2026 เพื่อลดรอยเท้าคาร์บอนจากการผลิตและการขนส่ง
นอกจากนี้ ในระดับองค์กร พวกเขายังได้เชื่อมโยง ‘เป้าหมายการลดคาร์บอน’ เข้ากับระบบแรงจูงใจภายใน ตั้งแต่โบนัสของพนักงาน ไปจนถึงโปรแกรม Supplier Sustainability Programme ที่กำหนดให้คู่ค้าทั่วโลกต้องตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายใน ปี 2026 และ 2028
ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า สำหรับ LEGO แล้ว “ความยั่งยืนไม่ใช่แผนกหนึ่งของบริษัท แต่คือ DNA ของธุรกิจทั้งระบบ” และที่สำคัญพวกเขายังแสดงให้เห็นว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจ กับ ความรับผิดชอบต่อโลก ไม่จำเป็นต้องเดินคนละทาง
ตัวต่อหนึ่งตัว ต่อโลกใบใหม่
จากบล็อกตัวต่อตัวเล็กที่ดูเหมือนของเล่นธรรมดา LEGO กำลังต่อโลกใบใหญ่ขึ้นมาใหม่ โลกที่เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ว่าธรรมชาติ คือสิ่งที่ต้องปกป้อง โลกที่ธุรกิจไม่ได้วัดความสำเร็จแค่จากตัวเลขกำไร แต่จากรอยยิ้มของผู้คนและความสมดุลของสิ่งแวดล้อม
พวกเขาดีว่า ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ไม่ได้เกิดจากเทคโนโลยีล้ำหน้าเสมอไป บางครั้ง มันเริ่มจากสิ่งที่เล็กที่สุด อย่างการที่เด็กคนหนึ่งต่อกังหันลมไว้ข้างบ้านจำลอง หรือสร้างเมืองที่มีต้นไม้เต็มไปหมดในโลกของจินตนาการ
“การเปลี่ยนโลก เริ่มได้จากของเล็ก ๆ อย่างของเล่นในมือเด็ก” นั่นคือความหมายแท้จริงของการเป็นแบรนด์ที่ยั่งยืน เพราะ LEGO ไม่ได้แค่ผลิตของเล่น แต่กำลังปลูกเมล็ดพันธุ์แหความรับผิดชอบ ให้เติบโตไปพร้อมกับคนรุ่นต่อไป คนที่จะเป็นผู้ต่อโลกใบนี้ให้สมบูรณ์กว่าเดิม










