แพทย์ รพ.ราชวิถีแถลงพบสูตรยารักษาไวรัสอู่ฮั่นอาการหนัก ดีขึ้นใน 48 ชม.

วันที่ 2 ก.พ. เวลา 12.45 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข แถลงสถานการณ์ไวรัสโรโรนา 2019 เป็นรอบพิเศษภายหลังการหารือภายในกับผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข จากเดิมที่แจ้งว่าจะแถลงข่าวช่วงเดียวเวลา 12.00 น.
.
นายอนุทิน กล่าวว่า เที่ยวบินจากประเทศไทยที่จะไปรับคนไทยที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ในวันที่ 4 ก.พ. พร้อมแล้ว กระทรวงสาธารณสุข จะดูในส่วนของทีมแพทย์ การรักษา การกักกันตัวในห้วงเวลาควบคุมโรค จะมีทีมแพทย์ไป 8 ท่าน ทั้งแพทย์ฉุกเฉิน แพทย์ด้านระบาดวิทยาและจิตแพทย์ พร้อมพยาบาลและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นระหว่างการเดินทาง

เมื่อเดินทางถึงประเทศไทย จะทำตามมาตรฐานเพื่อให้ปลอดภัยกับคนไทยในประเทศด้วย โดยจะมีการตรวจอย่างละเอียดก่อนจะอนุญาตให้ขึ้นเครื่อง และจะมีความจำเป็นต้องกักกันโรค 14 วัน โดยสถานที่ยังต้องมีการหารือกับนายกรัฐมนตรีก่อน แต่มีการเตรียมไว้แล้ว 3-4 แห่ง
.
ขณะเดียวกันในการแถลงข่าวได้มีแพทย์จาก รพ.ราชวิถี ที่รักษาคนไข้ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว แม้คนไข้มีอาการรุนแรงตอนที่รับตัวเข้ามา ได้มาพูดถึงขั้นตอนการรักษาด้วย
.
ผู้ป่วยที่รับการรักษาส่งต่อมาจาก รพ.ในหัวหิน มีโรคประจำตัว อายุมาก มีอาการน้ำท่วมปอดและอาการปอดอักเสบรุนแรง มีค่าออกซิเจนในเลือดต่ำ

นพ.เกรียงศักดิ์ อติพรวณิช นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลราชวิถี และ รศ.นพ.สืบสาย คงแสงดาว นายแพทย์เชี่ยวชาญโรงพยาบาลราชวิถี แถลงว่า
.
คนไข้อาการดีขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 48 ชม. ผลตรวจโคโรนาไวรัสจากเป็นบวกกลายเป็นลบ ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดี
.
ยาที่ใช้รักษาใช้ยาขององค์การเภสัชกรรม คือ ใช้ยาต้านไวรัสหวัดและยาต้านไวรัสเอดส์ ให้ร่วมกัน
.
10 วันก่อนที่คนไข้จะมาถึง รพ.ราชวิถี อาการแย่ลงเรื่อยๆ ค่าการอักเสบในเลือดสูงขึ้นๆ ทุกวัน คนไข้มีแนวโน้มจะต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ แต่หลังจากที่ได้ให้สูตรยา ปรากฏว่าอาการดีขึ้นชัดเจน อาการไข้ลดลง ทานอาหารได้ดี
.
ค่าผลตรวจจากทางเดินหายใจไม่พบเชื้อแล้ว จากเดิมที่พบเชื้อตลอด 10 วัน

สำหรับแนวทางในการใช้ยา 2 ตัวนี้ มาจากการนำยาต้านไวรัสเอดส์ มาผสมกับยาต้านไวรัสหวัดที่ใช้รักษาโคโรนาไวรัสตอนโรคเมอร์สระบาด ซึ่งออกมาได้ผลดีขึ้นชัดเจนภายใน 48 ชม. ซึ่งรูปแบบการรักษาไม่เหมือนกับที่จีนใช้ในขณะนี้
.
นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมีเพียงผู้ป่วยทานอาหารไม่ได้ เพราะเขาบ่นว่า คนจีนชอบของร้อน อาหารไทยไม่ร้อนเท่าอาหารจีน เรียกเสียงหัวเราะจากที่ประชุม

ต่อมา นพ.เกรียงศักดิ์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า คนไข้ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสเอดส์จาก รพ.ที่หัวหิน มาก่อนส่งตัวมาที่ รพ.ราชวิถี 2 วัน แต่อาการยังไม่ดีขึ้น แย่ลงเรื่อยๆ เมื่อเข้ารับการรักษาที่ รพ.ราชวิถี วันที่ 29 ม.ค. ได้ให้ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ โอเซลทามิเวียร์ โดยใช้ในขนาดที่สูง เพราะคนไข้มีอาการหนัก ซึ่งยาตัวนี้มีรายงานว่าใช้ได้ผลในคนไข้โรคเมอร์ส ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนากลุ่มเดียวกัน ตอนนั้นตัดสินใจว่า คนไข้อาการหนักต้องรักษาคนไข้ไว้ก่อน และคอยระวังผลข้างเคียง จึงตัดสินใจให้ยาไปและเฝ้าดูอาการทุกวันตลอดเวลา

แฟ้มภาพ : ภาพประกอบ

นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ยาที่ให้เป็นยา 2 กลุ่ม 3 ตัว คือ กลุ่มยาต้านไวรัสเอดส์ 2 ตัว คือ ยาโลพินาเวียร์ 200 มิลลิกรัม ให้ x4 เป็น 800 มิลลิกรัมต่อวัน และ ยาริโทนาเวียร์ 50 มิลลิกรัม ให้ x4 เป็น 200 มิลลิกรัมต่อวัน และกลุ่มยารักษาไข้หวัดใหญ่ คือ ยาโอเซลทามิเวียร์ 300 มิลลิกรัมต่อวัน ในส่วนของโอเซลทามิเวียร์ คือส่วนที่ต่างจากการรักษาของจีน ซึ่งอาจจะมีคนที่ใช้รักษาอยู่แต่ยังไม่มีการรายงาน แต่ที่ตนตัดสินใจใช้เพราะศึกษาว่าได้ผลในกลุ่มโคโรนาเหมือนกัน

ภายในไม่ถึง 12 ชั่วโมง จากคนไข้ที่ดูลุกไม่ได้ อ่อนเพลีย ก็ลุกขึ้นมานั่งได้ ไข้ลดลง และจากนั้นอาการเหนื่อยหายไป ถามว่าคนไข้หายหรือยังยังไม่หายครับ แต่อาการดีขึ้นอย่างชัดเจน ส่วนผลตรวจจากที่ได้รับการรักษามา 10 กว่าวัน เป็นบวกมาตลอด แต่พอได้รับยาสูตรนี้ที่ใช้ ผลเป็นลบภายใน 48 ชั่วโมง จากผลแล็บที่ยืนยันโดยโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

ทั้งนี้ นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวด้วยว่า โรคนี้ยังไม่มีมาตรฐานในการรักษาเพราะเป็นโรคอุบัติใหม่ เมื่อมีใครรายงานว่าอันไหนได้ผลก็ต้องติดตาม เราศึกษาและเปิดดูรายงานการรักษาใหม่ๆ ทุกวันหรือไม่ ถ้ามีเราไม่หวง เราเอามารักษาคนไทยอยู่แล้ว

https://www.youtube.com/watch?v=8DTopLFZQos