วิษณุ ยันไม่ได้แก้กฎหมายช่วยฟิลลิป มอร์ริส จ่ายค่าปรับน้อยลง

วันที่ 27 ก.พ. การประชุมสภา ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายศรัณวุฒิ ศรัณยฺเกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย อภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี , นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ
.
โดยกล่าวหาว่า มีส่วนช่วยเอื้อให้ บริษัทฟิลลิป มอร์ริส ที่ถูกดำเนินคดีสำแดงเท็จศุลากรจากการนำเข้าบุหรี่ จากค่าปรับ 84,000 ล้านบาท เหลือเพียง 1,225 ล้านบาท ด้วยการใช้ ม.44 ดึงเวลาการฟ้องเพื่อรอให้มีการแก้ไขกฎหมายลดโทษปรับแล้วจึงสั่งฟ้อง

นายวิษณุ ชี้แจงเรื่องการแก้กฎหมายศุลกากรว่า ไม่ใช่การแก้เพื่อช่วยเหลือ ฟิลลิป มอร์ริส เพราะการแก้กฎหมายดำเนินการตั้งแต่ปี 2550 และ ครม.ยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ ส่งเข้าสภาและจ่อวาระแล้ว แต่ยุบสภาก่อน กฎหมายจึงตกไป
.
ต่อมามีเหตุการณ์ไม่เรียบร้อย รวมทั้งปี 2555 กรมศุลกากร นำเรื่องเข้า ครม. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่เกิดเหตุรัฐบาลต้องหนีไปทำงานที่แจ้งวัฒนะ จึงให้หยุดเรื่องนี้ไว้
.
จนเมื่อ คสช.เข้ามา กรมศุลกากร ได้ตั้งคณะกรรมการแก้กฎหมาย ฉบับนี้ซึ่งมีอายุเก่าแก่ 90 ปี อีกครั้ง ส่วนหนึ่งคือต้องเตรียมเพื่อรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน AEC และอาฟต้า รวมทั้งอื่นๆ จึงรื้อกฎหมายทั้งฉบับ

ผลจากการรื้อ ต่อมาได้นำเข้าการพิจารณาของ สนช. ใช้เวลาพิจารณา 6 เดือน ประกาศใช้ เมื่อ พ.ค. 60 แต่ทอดเวลาให้มีผล 180 วัน จึงมีผลใช้บังคับ พ.ย. 60
.
พ.ร.บ.ศุลกากร เก่า โทษสำแดงราคาเท็จ ผิด ม.27 (ลักลอบ/ฉ้อ/เลี่ยง) โทษปรับ 4 เท่า ของราคา+ภาษี ส่วน พ.ร.บ.ศุลกากร 2560 ใหม่ สำแดงราคาเท็จ ผิด ม.243 โทษปรับคิดเฉพาะ 4 เท่าของภาษี
.
สำหรับคดีฟิลลิป มอร์ริส เกิดตั้งแต่ ม.ค. 59 ที่อัยการเริ่มฟ้องคดี รัฐบาลไม่สามารถไปวิ่งให้ทำคดีช้าได้ ซึ่งถ้าศาลตัดสินก่อน พ.ย. 60 โทษปรับจะใช้กฎหมายเก่า แต่เมื่อตัดสินปี 2562 จึงต้องใช้โทษปรับตามกฎหมายใหม่ จากค่าปรับ 84,000 ล้านบาท จึงเหลือ 1,225 ล้านบาท