
ฉัตรไชย จันทร์พรายศรี กกต.
รองเลขาธิการ กกต. แถลงยังต้องรอ กกต.นครปฐมยืนยันผลการนับคะแนนใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 1 หลังผลสับสน ประชาธิปัตย์หรืออนาคตใหม่ชนะ แต่ยอมรับที่ นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี บอกสื่ออนาคตใหม่ ชนะ 62 คะแนน เป็นการให้สัมภาษณ์ส่วนตัวและได้ข้อมูลยังไม่ครบถ้วน ย้ำหนักแน่นระบบของ กกต.ดีแล้ว แต่อาจบกพร่องในส่วนผู้ปฏิบัติงาน กรณีนี้พบเบื้องต้นนับคะแนนถูกแต่กรอกคะแนนผิด เชิญตัวแทนทั้ง ประชาธิปัตย์และอนาคตใหม่ร่วมตรวจสอบแล้ว

พันโทสินธพ แก้วพิจิตร (ประชาธิปัตย์) และ น.ส.สาวิกา ลิมปะสุวัณณะ (อนาคตใหม่)
วันที่ 29 เม.ย. นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ ตอบคำถามเรื่อง ผลการนับคะแนนใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.นครปฐม ที่ยังมีความสับสนเรื่องผลคะแนนที่ถูกต้อง หลังเมื่อวันที่ 28 เม.ย. นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี กกต. เปิดเผยว่า ผลการรวมคะแนนจากทุกหน่วย น.ส.สาวิกา ลิมปะสุวัณณะ ผู้สมัครจากพรรคอนาคตใหม่ เป็นฝ่ายชนะ 62 คะแนน แต่พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าเมื่อรวมผลคะแนนเอง พันโทสินธพ แก้วพิจิตร เป็นฝ่ายชนะ 4 คะแนน
นายแสวง กล่าวว่า วันนี้ กกต. จ.นครปฐมได้มีการเชิญผู้สมัครทั้ง 2 พรรคไปตรวจสอบหลักฐานแล้ว เบื้องต้นพบว่า การนับคะแนนไม่มีปัญหาใดๆ แต่การกรอกแบบฟอร์มอาจจะมีปัญหาทำให้ตัวเลขไม่ตรงกัน ซึ่งตอนที่ กกต. ให้ข้อมูลผู้สื่อข่าวไปจึงไม่ครบถ้วน และมีการกลับมาตรวจสอบที่มาที่ไปใหม่ โดยย้อนไปเทียบกับใบขีดคะแนน
“เป็นการสัมภาษณ์ส่วนตัว และข้อมูลท่านอาจจะไม่ครบถ้วน ข้อมูลที่ กกต.ท่านได้ให้สัมภาษณ์ไป”

รองเลขาธิการ กกต. ยังกล่าวถึงการนับคะแนนในวันเลือกตั้ง 24 มี.ค. และการนับใหม่ 28 เม.ย. ที่ไม่ตรงกันว่า ระบบเลือกตั้งของ กกต. มีความสุจริต เที่ยงธรรมสามารถตรวจสอบได้ แต่ยอมรับว่า อาจมีความบกพร่องส่วนบุคคลของผู้ปฏิบัติงาน
ส่วนข้อเรียกร้องให้มีการนับคะแนนใหม่ทั้งประเทศนั้น ถ้าไม่มีเหตุจะไม่สามารถขอให้มีการนับใหม่ได้ เนื่องจากกฎหมายกำหนดว่า การนับคะแนนใหม่มี 2 เหตุ คือ การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรรมหรือการนับคะแนนไม่ถูกต้อง ซึ่งเมื่อมีเหตุแล้วต้องมาดูว่ามีข้อเท็จจริงหรือไม่ ซึ่งกรณีของ เขตเลือกตั้งที่ 1 นครปฐม มีการร้องเรียนว่า นับคะแนนไม่ถูกต้องและ กกต.ตรวจสอบพบว่ามีข้อเท็จจริงจึงนำไปสู่การนับคะแนนใหม่









