
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สนับสนุนแนวทางให้นายจ้างพิจารณาให้ลูกจ้าง “ทำงานที่บ้าน” ได้ เพื่อป้องกันสุขภาพในช่วงที่มีฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 แต่หากเป็นงานที่ทำที่บ้านไม่ได้ ขอให้จัดหน้ากากให้สวมใส่ตลอดเวลา
นายสมบูรณ์ ตรัยศิลานันท์ รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวถึงกระแสข่าวลูกจ้าง จะขอทำงานที่บ้าน เพื่อป้องกันสุขภาพในช่วงที่มีภาวะฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ครอบคลุมพื้นที่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ว่า กสร.เห็นว่าแนวทางดังกล่าวเป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์ แต่กรณีที่จะให้ลูกจ้างทำงานอยู่ที่บ้านได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับลักษณะงาน หรือประเภทของสถานประกอบกิจที่ลูกจ้างทำว่า สามารถนำงานกลับไปทำที่บ้านได้หรือไม่
กรณีที่เป็นงานเกี่ยวกับการผลิต ประกอบ หรือต้องทำงานเกี่ยวข้องกับเครื่องจักร การให้ลูกจ้างทำงานที่บ้านคงไม่สามารถดำเนินการได้ หากลักษณะงานที่ลูกจ้างทำเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับเอกสารหรืองานอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นต้องมาปฏิบัติงานในสถานที่ทำงาน นายจ้างก็สามารถให้ลูกจ้างทำงานที่บ้านได้
นายสมบูรณ์ กล่าวต่อว่า หากนายจ้างหรือสถานประกอบการพิจารณาว่างานที่ลูกจ้างทำสามารถให้ลูกจ้างนำกลับไปทำงานที่บ้านได้และส่งผลดีกับสุขภาพอนามัยของลูกจ้างก็สามารถตกลงและกำหนดแนวทางหรือวิธีการปฏิบัติงานร่วมกันเพื่อประโยชน์ของลูกจ้าง ขณะเดียวกันก็ไม่กระทบกับการดำเนินธุรกิจของนายจ้าง กสร.ยินดีที่จะสนับสนุนแนวทางการดำเนินการดังกล่าว
สำหรับสถานประกอบกิจการที่ไม่สามารถให้ลูกจ้างทำงานที่บ้านได้ กสร. ขอให้นายจ้างจัดหน้ากากอนามัยที่สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ให้ลูกจ้างสวมใส่ตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติงาน รวมถึงระหว่างการเดินทางไปกลับจากที่พักและที่ทำงานด้วย และขอให้ลูกจ้างสวมใส่หน้ากากอนามัยที่นายจ้างจัดให้ และปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยที่ดีของลูกจ้างเอง









