
นักวิทยาศาสตร์เตือนภาวะโลกร้อนทำให้สารพัดวิตามินในข้าวหดหาย และอาจทำให้หลายร้อยล้านคนทั่วโลกขาดสารอาหาร
“เราพบว่าภาวะโลกร้อน การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและโดยเฉพาะอย่างยิ่งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของภาวะเรือนกระจก มีผลกับสารอาหารในข้าว” ศ. Adam Drewnowski ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยา มหาวิทยาลัยวอชิงตัน เปิดเผยผ่านรายงานที่เผยแพร่ในวารสาร Science Advances
คณะวิจัยจากจีน ญี่ปุ่น สหรัฐ และออสเตรเลียได้ทดลองปลูกข้าว 18 สายพันธุ์ในพื้นที่กลางแจ้งที่ล้อมรอบด้วยท่อพ่นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อสร้างสภาวะให้คล้ายคลึงสภาพอากาศที่น่าเป็นช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 21 ซึ่งเชื่อกันว่าปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศน่าจะอยู่ที่ 568-590 ppm โดยเวลานี้อยู่ที่ประมาณ 400 ppm
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าผลการศึกษามีความน่าเชื่อถือสูงเพราะไม่ใช่การจำลองสถานการณ์ในคอมพิวเตอร์และไม่ใช่การปลูกในห้องทดลอง ศ. คาซูฮิโกะ โคบายาชิ จากมหาวิทยาลัยโตเกียว หนึ่งในทีมวิจัยกล่าวว่าวิธีนี้ช่วยให้วัดผลกระทบของคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีต่อข้าวที่เติบโตในสภาพแวดล้อมเดียวกับที่ชาวนาจะต้องเผชิญจริง ๆ ในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้าได้อย่างแม่นยำ
นอกจากนี้ยังได้ย้ายไปทำการทดลองแบบเดียวกันในหลายพื้นที่ซึ่งให้ผลลัพธ์เดียวกัน นั่นคือสารอาหารในข้าวทุกสายพันธุ์ที่ทดลองลดลงทั้งธาตุเหล็ก สังกะสี โปรตีน วิตามินบี1 บี2 บี5 และบี9 มีเพียงแคลเซียมและวิตามินบี 6 เท่านั้นที่ไม่เปลี่ยนแปลง
คาดว่ามีคนกินข้าวเป็นอาหารหลักทั่วโลกกว่า 2 พันล้านคน สำหรับคนในประเทศร่ำรวยซึ่งมีอาหารให้เลือกมากมายหลากหลาย การลดลงของสารอาหารในข้าวอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่สำหรับกว่า 600 ล้านคนคนในประเทศยากจนซึ่งพึ่งพาข้าวเป็นแหล่งพลังงานและแหล่งสารอาหารหลัก จะได้รับผลกระทบแน่นอน
นักวิจัยมองว่าทางออกของเรื่องนี้คือการไม่ทำให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มปริมาณขึ้นซึ่งหากทำไม่ได้ก็ต้องปรับปรุงสายพันธุ์ข้าวให้ทนกับก๊าซเรือนกระจกได้มากขึ้น ไม่เฉพาะข้าวเท่านั้น อีกผลการศึกษาของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดในสหรัฐพบว่าภาวะโลกร้อนทำให้โปรตีนในพืชอย่างอื่นที่เป็นอาหารหลักทั้งข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์รวมทั้งมันฝรั่งลดลงเช่นกัน
ที่มา Global warming grows less nutritious rice Global warming may have ‘devastating’ effects on rice: study









