วันที่ 1 ต.ค.นี้ ผู้ใช้บริการรถตู้โดยสารบางเส้นทางอาจต้องเผื่อเวลา เพราะมีรถบางคันที่อายุการใช้งานครบ 10 ปี ต้องหยุดให้บริการ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกยืนยันไม่ขยายเวลาให้รถที่มีอายุเกินให้บริการต่อ พร้อมเตรียมตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์เพื่อแก้ไขปัญหาเส้นทางที่รถตู้มีให้บริการไม่เพียงพอ
เมื่อวันที่ 27 ก.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเชิดชัย สนั่นศรีสาคร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยภายหลังหารือกับผู้ประกอบการรถตู้นั้น ได้ข้อสรุปว่าผู้ประกอบการยินดีทำตามเงื่อนไขที่ ขบ. กำหนดคือห้ามนำรถตู้อายุเกิน 10 ปี มาวิ่งให้บริการโดยต้องเปลี่ยนรถใหม่ตามที่กำหนด โดยวันที่ 1 ต.ค.นี้ จะตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ขึ้น พร้อมสั่งการให้ ขสมก.เตรียมความพร้อมนำรถเสริมมาให้บริการ ควบคู่ไปกับการหารือให้เจ้าของวินรถตู้นำรถอื่นมาหมุนเวียน ส่วนผู้ประกอบการที่ต้องการเปลี่ยนรถคันใหม่ กรมการขนส่งทางบกได้ร่วมกับสถาบันการเงินของรัฐ 2 แห่ง คือธนาคารกรุงไทย และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เตรียมเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำกว่าเกณฑ์ให้ผู้ประกอบการถึง 2,000 ล้านบาท
นายเชิดชัย สนั่นศรีสาคร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.)
กรมการขนส่งทางบก ยืนยันว่า กรณีที่ผู้ประกอบการจะปรับเปลี่ยนรถสามารถเปลี่ยนได้ทุกยี่ห้อ เเต่มาตรฐานตัวรถและอุปกรณ์ส่วนควบ ต้องเป็นไปตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด
ส่วนความคืบหน้าการปรับค่าโดยสาร ขณะนี้คณะกรรมการศึกษาโครงสร้างค่าโดยสารใหม่ อยู่ระหว่างสรุปค่าโดยสารทั้งระบบ เพื่อเสนอไปยังกระทรวงคมนาคม เเละคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลาง ภายในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งหากเห็นชอบ สามารถดำเนินการปรับขึ้นราคาได้ทันที
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ผู้ประกอบการรถตู้ขอปรับราคา 5 บาท โดยอ้างเหตุผลต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการลดจำนวนที่นั่งเหลือ 13 จาก 15 ที่นั่ง
