ประเด็นคือ – ญาติวอนทางการตรวจสอบยาที่สั่งซื้อทางเน็ต เพราะปกติผู้เสียชีวิตร่างกายแข็งแรง มีเพียงตกขาว แต่หลังกินยาดังกล่าวไม่นานก็เป็นโรคไต และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 กันยายน 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีการเสียชีวิตของ นางสาววิจิตตรา จันทร์ตาพรม อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 131/1 หมู่ที่ 5 ต.ช่อแฮ อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ หลังญาติอ้างว่าน่าจะเสียชีวิตจากการรับประทานยาที่ทำให้ขาว ซึ่งผู้เสียชีวิตได้ขอแบ่งซื้อมาจากเพื่อนบ้านที่สั่งซื้อผ่านอินเทอร์เน็ตนั้น เป็นยาสมุนไพรบรรจุแคปซูล โดยในเบื้องต้นผู้เสียชีวิตไม่เคยมีโรคประจำตัว แต่มีอาการตัวบวมหลังจากได้มีการสั่งซื้ออาหารเสริมจากทางอินเทอร์เน็ตได้ไม่นาน จึงได้ไปพบแพทย์
ต่อมาแพทย์จากโรงพยาบาลแพร่พบว่าเป็นโรคไตระยะเริ่มต้น จึงได้รักษาไปตามอาการ กระทั่งเริ่มมีอาการหนักขึ้นเรื่อยๆ จนล่าสุดเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2560 ทรุดหนักและหมดสติก่อนถึงโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
นางสาวกมลชนก กองโกย อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 131/1 หมู่ที่ 5 ต.ช่อแฮ อ.เมือง จ.แพร่ เล่าว่า เดิมน้าสาวเป็นคนแข็งแรง ขยันทำงาน ไม่เคยป่วยหรือมีโรคประจำตัวแต่อย่างใด มีเพียงอาการตกขาว จึงได้ไปขอแบ่งซื้อจากเพื่อนบ้าน ซึ่งสั่งซื้อยามาจากอินเทอร์เน็ต โดยขอซื้อมาในราคา 3 ซอง 100 บาท ใน 1 ซอง มียา 10 เม็ด กินวันละ 2 เม็ด เช้า เย็น โดยกินต่อเนื่องมา 3 ซองแรก อาการตกขาวหายไป และได้ขอแบ่งซื้อมากินอีก จนซองที่ 8 ที่กิน เริ่มมีอาการตัวบวม จึงหยุดกินยาและไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแพร่
ตอนนั้นแพทย์ระบุว่ามีอาการโรคไตระยะแรก จึงได้ทำการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และออกมาอยู่บ้านได้เพียงวันเดียว อยู่ๆ ก็เกิดอาการช็อกจนหมดสติก่อนถึงโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงทำให้ข้องใจว่าเพราะอะไรที่ทำให้น้าสาวเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว โดยตอนนี้เพียงสงสัยและอยากขอให้ตรวจสอบว่า ตัวยาที่กินนี้มีอันตรายกับร่างกายหรือไม่ และไม่อยากให้เสนอข่าวในแง่ลบ เพราะผลตรวจของตัวยายังไม่ออก ยังระบุไม่ได้ว่าเพราะยาตัวนี้หรือไม่ หากไม่ใช่ก็จะได้หายข้องใจ แต่ถ้าใช่ก็อยากจะให้เป็นอุทาหรณ์เตือนถึงทุกท่านที่คิดจะสั่งยามาทานเองทางอินเทอร์เน็ต อยากให้ระวังให้มากๆ
เภสัชกรเด่น ปัญญานันท์ เภสัชกรเชี่ยวชาญ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเลขทะเบียนพบว่า ผลิตภัณฑ์มีการขึ้นทะเบียนเป็นอาหารเสริมถูกต้องทุกอย่าง แต่ในส่วนของการโฆษณาหรือตัวยานั้นยังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบ เพราะต้องส่งตัวยาเพื่อตรวจสอบที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์จังหวัดเชียงราย โดยเบื้องต้นต้องตั้งทีมออกหาข้อมูลที่มาที่ไปของผลิตภัณฑ์ และรอผลการตรวจจากศูนย์ฯ ที่แน่ชัด จึงจะสามารถระบุได้ว่าสาเหตุการเสียชิวิตนั้นเกี่ยวข้องกับตัวผลิตภัณฑ์ที่ผู้เสียชีวิตทานก่อนเสียชีวิตหรือไม่ ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทางผลิตภัณฑ์ด้วย และต้องคลายข้อข้องใจให้กับญาติผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน









