แอมเนสตี้-พายุ บุญโสภณ เรียกร้องสอบสวนอิสระเหตุสลายการชุมนุม “ราษฎรหยุด APEC 2022”ครบรอบ 3 ปี พร้อมยุติวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิด เยียวยาผู้เสียหาย และปฏิรูประบบการใช้กำลัง-อาวุธควบคุมฝูงชนให้สอดคล้องมาตรฐานสากลพายุ บุญโสภณ นักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชน ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกยิงด้วยกระสุนยางในระยะประชิดจนสูญเสียการมองเห็นถาวร ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พล.ต.ท. รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อเรียกร้องให้มีการสอบสวนที่อิสระ โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างครบถ้วนตามหลักสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ

เพชรรัตน์ ศักดิ์ศิริเวทย์กุล ผู้จัดการฝ่ายรณรงค์แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เผยว่า ประเทศไทยต้องแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การใช้กำลังสลายการชุมนุมอย่างรุนแรงเกินความจำเป็นและไม่ได้สัดส่วนนั้น จะไม่ได้รับการยอมรับอีกต่อไป รัฐจำเป็นต้องสอบสวนอิสระและมีประสิทธิภาพ เอาผิดเจ้าหน้าที่ที่ละเมิดสิทธิ และจัดให้มีการเยียวยาและการรับรองความเป็นผู้เสียหายและหรือหยื่อจากการใช้ความรุนแรงโดยเจ้าหน้าที่รัฐอย่างครบถ้วน พร้อมเร่งปฏิรูประบบการใช้กำลังและอาวุธควบคุมฝูงชนให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพื่อป้องกันไม่ให้ความรุนแรงเช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่รัฐต้องดำเนินการทันที ไม่ปล่อยให้ผู้เสียหายรอคอยความยุติธรรมอย่างไม่มีที่สิ้นสุดอย่างที่เป็นอยู่

พายุ บุญโสภณ ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกยิงด้วยกระสุนยาง เปิดเผยว่า ความเจ็บปวดที่สุดไม่ใช่เพียงบาดแผลทางร่างกาย แต่คือการที่ความจริงยังไม่ถูกเปิดเผย เหตุการณ์วันนั้นไม่ได้เป็นเพียงการสลายการชุมนุมประท้วงโดยสงบ แต่คือการทำร้ายศักดิ์ศรีของประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิมนุษยชนของตน แต่สิ่งที่เจ็บปวดกว่าคือ ทางการไทยกำลังเลือกหลับตาไม่มองความจริงทั้งสองข้าง
“ผมไม่อยากให้กรณีของผมกลายเป็นเพียงเรื่องเล่าโศกนาฏกรรมส่วนบุคคล แต่อยากให้เป็นจุดเริ่มต้นของการยุติวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิด เพื่อให้คำว่าสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มีความหมายที่แท้จริงสำหรับทุกคน”
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยเรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 อย่างอิสระ โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งนำเจ้าหน้าที่ที่ใช้กำลังเกินกว่าเหตุเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จัดการเยียวยาอย่างเหมาะสมครบถ้วน ทบทวนกฎหมายและแนวปฏิบัติด้านการควบคุมฝูงชน และการชุมนุม และปรับปรุงการฝึกอบรมการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลนอกจากนี้ แอมเนสตี้เรียกร้องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายออกวินิจฉัยว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พรบ.ป้องกันการทรมานฯ หรือไม่ และดำเนินการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่หากพบว่ามีการละเมิดเกิดขึ้น รวมถึงการเยียวยาต่อ พายุ บุญโสภณ และผู้ได้รับผลกระทบ จากการชุมนุมราษฎรหยุด APEC 2022 อย่างเหมาะสม










