
ประเด็นคือ – สดร.จัดสังเกตการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์ ปชช.แห่ชมฝนดาวตกยอดดอยอินทนนท์ ท้าลมหนาว 9 องศา โดยปีนี้นับได้กว่า 200 ดวงต่อชั่วโมง ขณะที่หลายจังหวัดแห่ชมคึกกันเช่นกัน
วันที่ 15 ธ.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์ เปิดเผยว่า ปรากฏการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์ หรือฝนดาวตกกลุ่มดาวคนคู่ ในคืนวันที่ 14 ธ.ค. 60 เริ่มปรากฏให้เห็นตั้งแต่เวลาประมาณสองทุ่มครึ่ง ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นศูนย์กลางการกระจายของฝนดาวตกเจมินิดส์ บริเวณกลุ่มดาวคนคู่ มีลักษณะเป็นริ้วสีขาวพาดผ่านท้องฟ้า เห็นได้ชัดเจนด้วยตาเปล่าและเริ่มถี่ขึ้นเรื่อยๆ โดยปริมาณฝนดาวตกมีมากที่สุดตั้งแต่เวลาประมาณเที่ยงคืนเป็นต้นไป นับได้ประมาณ 200 ดวงต่อชั่วโมง

โดยฝนดาวตกเจมินิดส์จะมีจุดเด่นคือ มีความเร็วของดาวตกไม่มากนัก สังเกตเห็นได้ง่าย แต่ละดวงปรากฏนานประมาณ 1-3 วินาที ซึ่งที่ยอดดอยอินทนนท์เมื่อคืนนี้สภาพท้องฟ้าดีมาก และยังตรงกับช่วงข้างแรม ท้องฟ้าจึงมืดสนิท ไร้แสงจันทร์รบกวน ประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมชมฝนดาวตกเจมินิดส์ต่างมีความสุขที่ได้ชมดาวตกกันอย่างเต็มตา ซึ่งตลอดช่วงที่ดาวตกปรากฏให้เห็นก็จะมีเสียงฮือฮาชี้ชวนกันให้ดูเป็นระยะๆ โดยเฉพาะช่วงปรากฏให้เห็นเป็นลูกไฟขนาดใหญ่ (Fireball) ทำให้บรรยากาศการเฝ้ารอชมฝนดาวตกเจมินิดส์ในครั้งนี้เต็มไปด้วยความคึกคักและสนุกสนานเป็นอย่างยิ่ง

ดร.ศรัณย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กิจกรรมในวันนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง สดร. กับอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์นำประชาชนและนักท่องเที่ยวกว่าร้อยคน ร่วมชมฝนดาวตกเจมินิดส์บริเวณยอดดอยอินทนนท์ ท่ามกลางอากาศหนาว 9 องศาเซลเซียส ซึ่งนอกจากการนอนรอชมฝนดาวตกเจมินิดส์แล้ว สดร. ยังเตรียมกล้องโทรทรรศน์ขนาดต่างๆ มากกว่าสิบตัว มาติดตั้งในบริเวณดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนได้สังเกตวัตถุท้องฟ้า อาทิ เนบิวลาวงแหวน เนบิวลาในกลุ่มดาวนายพราน และอื่นๆ พร้อมเจ้าหน้าที่แนะนำวิธีการดูดาวเบื้องต้น ทำให้การนอนนับฝนดาวตกเจมินิดส์ในคืนนี้ ประชาชนต่างตื่นตาตื่นใจไปกับดาวตก และดาวที่ระยิบระยับเต็มฟ้าของยอดดอยอินทนนท์ที่นับได้ว่าเป็นสถานที่ที่มีทัศนวิสัยของท้องฟ้าดีที่สุดในประเทศไทย

นอกจากนี้ สดร. ได้จัดกิจกรรมส่วนภูมิภาคอีก 3 แห่ง ที่หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา นครราชสีมา หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ฉะเชิงเทรา และลานชมวิวนางเงือก หาดสมิหลา สงขลา ซึ่งมีประชาชนสนใจเข้าร่วมชมฝนดาวตกเจมินิดส์เมื่อคืนนี้กว่า 4,000 คน
สำหรับโรงเรียนในโครงการกระจายโอกาสการเรียนรู้ดาราศาสตร์ฯ 77 จังหวัด เปิดฟ้าส่องโลกดาราศาสตร์ เปิดโอกาสเรียนรู้ทั่วหล้า ที่รับมอบกล้องโทรทรรศน์จาก สดร. หลายจังหวัดได้ร่วมจัดกิจกรรมสังเกตการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์กันอย่างคึกคัก ส่วนในจังหวัดอื่นๆ ได้รับแจ้งจากสมาชิกแฟนเพจของสถาบันฯ ว่า เห็นดาวตกในหลายพื้นที่ของประเทศแต่ปริมาณไม่มากนัก

โดยฝนดาวตกเจมินิดส์ เกิดจากสายธารเศษฝุ่น ของแข็ง และน้ำแข็งจำนวนมาก ที่ยังหลงเหลืออยู่ในวงโคจรของดาวเคราะห์น้อย 3200 เฟธอน (3200Phaeton) ตัดผ่านวงโคจรของโลก ทำให้เศษฝุ่นของดาวเคราะห์น้อยเหล่านั้นเสียดสีกับชั้นบรรยากาศของโลก เกิดการเผาไหม้จนเห็นเป็นแสงสว่างวาบคล้ายลูกไฟวิ่งพาดผ่านท้องฟ้า โดยจะปรากฏในช่วงระหว่างวันที่ 4-17 ธ.ค. ของทุกปี สำหรับในปีนี้ปรากฏให้เห็นมากที่สุดวันที่ 14 ธ.ค. 60









