ประเด็นคือ – เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์ เจ้าบ่าวไม่มางานแต่ง ด้านพ่อเจ้าสาวลั่นพร้อมเลี้ยงหลาน แม้ไม่มีลูกเขย ขณะเจ้าบ่าว ยืดอกพร้อมรับผิด ทำใจ สุดแล้วแต่เวรกรรม และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ยืนยันรักแฟนสาวและลูก
จากกรณีที่ได้มีการจัดงานมงคลสมรสอย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างเจ้าสาววัยใส คือนางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี และ เจ้าบ่าว คือนาย บี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี แต่เมื่อถึงเวลาฤกษ์งามยามดี ทางฝ่ายเจ้าบ่าวกลับไม่ได้เดินทางม ร่วมพิธี แต่อย่างใด สร้างความโศกเศร้าเสียใจแก่ฝ่ายเจ้าสาวเป็นอย่างมาก ขณะที่พ่อแม่เจ้าสาวได้เข้าแจ้งความ ที่ สภ.เขาพนม เพื่อดำเนินคดีกับฝ่ายเจ้าบ่าวแล้วเมื่อวานนี้ (30 ก.ย.) เพราะนอกจากจะทำให้เสียหน้าแล้ว ยังเสียเงินลงทุนไปกว่า 3 แสนบาท เหตุเกิดที่ ต.สินปุน อ.เขาพนม จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่ผ่านมา
ความคืบหน้า วันที่ 1 ต.ค. 60 ร.ต.อ.บุญส่ง ล่องวารี สว.(สอบสวน) สภ.เขาพนม เปิดเผย ภายหลังจากที่ทางพ่อและแม่ของฝ่ายเจ้าสาวได้แจ้งความที่ สภ.เขาพนมเมื่อวานนี้ ได้มีการสอบปากคำทางแม่เจ้าสาว พ่อเจ้าสาว รวมทั้งเจ้าสาวแล้ว
ในเบื้องต้นได้รับแจ้งข้อกล่าวหา ในคดีพรากผู้เยาว์อายุ 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ส่วนจะเป็นการข่มขืนกระทำชำเราด้วยหรือไม่นั้น หลังจากนี้จะต้องเรียกทางฝ่ายเจ้าสาวมาทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนคดีในทางแพ่ง ที่ทางฝ่ายเจ้าสาวจะมีการเรียกร้องค่าเสียหายนั้น ได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่ทางฝ่ายพ่อแม่เจ้าสาวว่า จะดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลเรียกค่าเสียหายหรือไม่
ด้านนายพงศ์ (นามสมมุติ) อายุ 68 ปี พ่อฝ่ายเจ้าสาวเปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าจะไม่มีลูกเขย ตนและครอบครัวก็พร้อมที่จะเลี้ยงหลานที่จะเกิดมาจากลูกสาวอย่างเต็มที่ ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ในเมื่อฝ่ายเขาไม่สามารถทำตามคำมั่นสัญญาได้ ก็ไม่เป็นไร ส่วนการที่จะเรียกค่าเสียหายจากฝ่ายเจ้าบ่าวเท่าไหร่นั้น ก็ต้องปรึกษากับทนายและญาติๆ อีกครั้ง เบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาท ขณะที่ตัวเจ้าสาวยังคงเก็บตัวเงียบ ไม่ยอมให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด
ขณะที่นายบี ฝ่ายเจ้าบ่าว กล่าวว่า ตนได้ทราบข่าวแล้วว่าอีกฝ่ายได้มีการแจ้งความดำเนินคดี ตนและครอบครัวก็ยังคงทำมาหากินตามปกติ ไม่ได้หลบหนีไปไหน และพร้อมที่จะไปให้การในชั้นศาล และพนักงานสอบสวน
แต่ตอนนี้คงต้องรอหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ เมื่อได้รับหมายแล้วตนก็พร้อมที่จะเข้าพบเจ้าหน้าที่ทันที และพร้อมจะรับโทษตามกฎหมายกำหนด ในความผิดเพราะความรัก แต่สุดท้ายไม่สมหวังเพราะความยากจน
เจ้าบ่าวกล่าวต่อว่า ตนรักแฟนสาวและรักลูก ถ้ามีโอกาสได้แก้ปัญหา คงได้อยู่ด้วยกัน ตนก็ยังยินดี และดีใจที่ได้อยู่กับลูกเมีย แต่ถ้าฝ่ายญาติผู้ใหญ่ฝ่ายภรรยาไม่ยอม ตนก็ต้องทำใจ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น สุดแล้วแต่โชคชะตา
