
ประเด็นคือ- หมอกควันหนาทึบปกคลุมตัวเมืองเชียงใหม่ ทัศนวิสัยไม่ดีจนมองไม่เห็นดอยสุเทพ สถานการณ์มีความเสี่ยงรุนแรง ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด กำชับงดเผาที่โล่งทุกชนิด พร้อมเตือนประชาชนควรงดหรือกัดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หากจำเป็นให้สวมหน้ากากอนามัยป้องกัน
วันนี้ (21 มี.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าต่อเนื่องมาตลอดทั้งวัน สภาพตัวเมืองเชียงใหม่ถูกปกคลุมหนาทึบด้วยหมอกควัน คาดว่าน่าจะเกิดจากการเผาในพื้นที่ป่าและถูกกระแสลมพัดพามาสะสมในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ ที่มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะจากการที่มีภูเขาสูงล้อมรอบ ส่งผลให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดน้อยลงจนไม่สามารถมองเห็นในระยะไกลได้ตามปกติ โดยมีตัวชี้วัดอย่างง่ายๆ คือการที่ไม่สามารถมองเห็นยอดดอยสุเทพจากตัวเมืองเชียงใหม่ได้เหมือนในช่วงที่อากาศสดใส

ขณะที่รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในจ.เชียงใหม่ ของกรมควบคุมมลพิษ ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ต.ช้างเผือก และต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น.วันนี้(21 มี.ค.61) ไม่เกินมาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร โดยวัดค่าได้ 102ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 79 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ ขณะที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กPM2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง วัดค่าได้ 65ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 69 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ เกินค่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร

โดยจากสถานการณ์ดังกล่าว ถือว่าอยู่ในภาวะเสี่ยงและต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพราะมีแนวโน้มที่สถานการณ์จะรุนแรงและค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานอีก เนื่องจากการตรวจวัดหาตำแหน่งจุดความร้อน (Hotspots) ในพื้นที่ภาคเหนือ 9 จังหวัด ด้วยระบบดาวเทียม พบว่าวันที่ 20 มี.ค.61 มีจุดความร้อนมากถึง 186 จุด มากที่สุดที่ จ.ลำปาง 43 จุด รองลงมาเป็นจ.แม่ฮ่องสอน 36 จุด, จ.ตาก 25 จุด และจ.เชียงใหม่ 23 จุด
ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เน้นย้ำขอความร่วมมือประชาชนและทุกภาคส่วนให้งดและควบคุมการเผาในที่โล่งทุกชนิด รวมทั้งหากสถานการณ์รุนแรงขอให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงเลี่ยงการออกทำกิจกรรมกลางแจ้ง หากจำเป็นให้สวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน









