
ประเด็นคือ- ใกล้เวลาบิ๊กตู่ลงพื้นที่จังหวัดตรัง เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในพื้นที่คลองช้าง หรือบริเวณก่อสร้างแก้มลิงเป็นแห่งแรก และเป็นพื้นที่น้ำท่วมหนักที่สุดของจังหวัดตรัง คือ รอบๆ แก้มลิง ด้านชาวบ้านเชื่อ ! แก้มลิงที่กำลังก่อสร้าง แก้ปัญหาน้ำท่วมไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังว่า ในวันพรุ่งนี้ (8 ธ.ค. 60) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. หรือบิ๊กตู่ และคณะ ได้โอกาสมาเยี่ยมและดูสถานที่ก่อสร้างแก้มลิงคลองช้าง บริเวณหมู่ที่ 4 ต.บางรัก อ.เมืองตรัง ด้วยงบประมาณก่อสร้าง 600 กว่าล้านบาท และขณะนี้การก่อสร้างคืบหน้าแค่ร้อยละ 30 เป็นสถานที่แรกของการเดินทางมาจังหวัดตรัง ก่อนจะไปเยี่ยมผู้ประสบภัยในท้องที่อื่นๆ และตลอดทั้งวันของวันพรุ่งนี้

ทั้งนี้การสร้างแก้มลิงบริเวณคลองช้าง หรือใกล้ๆ กับแม่น้ำตรัง ในโครงการ ระบายน้ำแม่น้ำตรัง ซึ่งมีกรมชลประทานเป็นเจ้าของโครงการ เริ่มสร้างมาไม่ต่ำกว่า 3 ปี แต่สร้างแบบหยุดๆ ทำๆ บางช่วงก็ยกเครื่องจักรกลออกไปหมด ทำให้ชาวบ้านสงสัยว่าผู้รับเหมาทิ้งงาน ดังเช่นหลายๆ โครงการที่ผู้รับเหมาทิ้งงาน หลังจากมองว่ารายได้จากการรับเหมางาน ไม่คุ้ม ขาดทุน จึงต้องใช้วิธีทิ้งงาน ดังปรากฏอยู่มากในส่วนราชการของจังหวัดตรัง
แต่การสร้างแก้มลิงคลองช้างครั้งนี้ ใช่ว่าจะมีคนตรังเห็นด้วยทั้งหมด โดยเฉพาะชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำตรัง ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมาตลอด ต่างเห็นว่า การสร้างแก้มลิงคลองช้างไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ 5-6 ตำบลริมแม่น้ำตรังได้ และการสร้างแก้มลิงคลองช้างครั้งนี้ ส่วนราชการ ผู้เป็นเจ้าของโครงการก็ไม่ได้รับฟังเสียงชาวบ้าน จึงเห็นว่าชาวบ้านไม่ได้มีส่วนร่วม
ดังนั้นจึงวิงวอนถึงนายกรัฐมนตรี ในโอกาสมาเยี่ยมแก้มลิงคลองช้างเป็นจุดแรก ช่วยเป็นปากเสียง แก้ปัญหาน้ำซ้ำซากแทนชาวบ้านด้วย

นายประเสริฐ ทองสุด อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 193 หมู่ที่ 6 ต.บางรัก อ.เมืองตรัง เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองอาศัยอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็ก เหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อสมัยก่อนนั้น กระแสน้ำไหลสะดวก พื้นที่หลายแห่งยังต่ำ แต่ปัจจุบันมีการถมที่ปิดกั้นทางน้ำ ทำให้กระแสน้ำที่ไหลไปเจอกับพื้นที่ที่สูง ถ้าจะให้แก้ปัญหาปัญหาแบบยั่งยืนนั้น ตนมองว่ามันยากมากเพราะถนนสูงมาก พื้นที่ที่เป็นของนายทุนก็ถูกถมจนหมด เมื่อมีมวลน้ำมากน้ำก็จะมากองรวมอยู่ที่ลุ่ม หากจะแก้ก็ต้องถมพนังกั้นให้สูงเพิ่มขึ้นอีกทำให้ถูกต้องตามแบบ ไม่ใช่โกงกินงบประมาณ ซึ่งตนสังเกตได้ว่า ที่ผ่านมาการก่อสร้างทำถนนไม่เป็นไปตามแบบความหนาของพื้นถนนที่กำหนดไว้ พื้นถนนบางมาก แต่จะไปถมไว้ริมถนนเพื่อให้ดูว่าพื้นถนนมีความหนาตามมาตรฐานที่กำหนดไว้
ปัญหาพนังที่พังทลายทุกปีสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านมาก เพราะน้ำเข้าท่วมบ้านเรือน ทางสัญจรไปมา ไปตลาดก็ลำบาก คนที่เลี้ยงสัตว์ก็ไม่มีที่ให้สัตว์เลี้ยงอยู่ เพราะเมื่อพนังขาด คนจะเดินทางไปในตัวเมืองก็ออกไม่ได้ ต้องใช้เรือ ซึ่งตนมองว่าถนนเส้นนี้หากทำตามงบประมาณที่ตั้งมา ตนมองว่าน่าจะทำแบบถาวรได้แล้ว ตั้งแต่ทำมาบอกว่า 40-50 เซนติเมตร แต่ความเป็นจริงไม่ถึง พื้นถนนบางนิดเดียว มาหลอกชาวบ้าน ซึ่งชาวบ้านเองก็ไม่ได้ตรวจสอบการทำงาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ทำงานเฉพาะส่วนของเขา เขามาตรวจวัดเสร็จ ออกนอกพื้นที่ไปแล้ว หากคนไหนไม่เห็นด้วยก็ให้ซองขาวเป็นอันสิ้นสุด

สำหรับการสร้างแก้มลิง ตนเองมองว่าถึงแม้ได้ผลก็เพียงเล็กน้อย แต่มาวิเคราะห์ดูแล้วไม่ได้ผล เพราะแก้มลิง ตนมองว่าไม่น่าจะอยู่ในพื้นที่แบบนี้ แต่เป็นโครงการของเขาก็ทำไป เข้าไปก้าวก่ายไม่ได้เพราะพื้นที่ของเขา แต่ถ้าเป็นพื้นที่ในหมู่บ้าน ถ้ามีการประชุม ตนเองก็จะคัดค้าน ซึ่งทั้งนี้คนที่ทำยังบ่นว่าทำเอาพื้นที่ดิน ชาวบ้านไม่ได้ใช้ผลประโยชน์อะไร แต่ถ้าเอาที่ดินไว้ ชาวบ้านยึดที่ดินไว้หมด ขุดให้เป็นหนองเป็นคลองเพื่อแก้ปัญหา









