ประเด็นคือ – ชาวเชียงใหม่ช่วยกันหยอดผางปะตี๊ด หรือผางประทีป เพื่อใช้สำหรับจุดบูชาเมือง และถวายเป็นพุทธบูชารอบคูเมืองเชียงใหม่ เนื่องในประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทง ที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้
วันนี้ (28 ตุลาคม 2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ลานพิพิธภัณฑ์ล้านนา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ชาวเชียงใหม่ทั้งเด็ก คนหนุ่มสาว และผู้สูงอายุ จากหลายชุมชนในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ ช่วยกันหยอดผางปะตี๊ด หรือผางประทีป เพื่อใช้สำหรับจุดบูชาเมือง และถวายเป็นพุทธบูชารอบคูเมืองเชียงใหม่ เนื่องในประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทง ที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้
โดยกลุ่มเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ได้เตรียมผางประทีปขนาดใหญ่จำนวน 1 หมื่นดวง สำหรับจุดบริเวณประตูเมืองทั้ง 5 คือ ประตูท่าแพ ประตูสวนดอก ประตูช้างเผือก ประตูสวนปรุง และประตูเชียงใหม่ และผางประทีปขนาดใหญ่อีกกว่า 1 แสนดวง เพื่อใช้สำหรับจุดรอบคูเมืองเชียงใหม่ทั้ง 4 ด้าน
ส่วนขี้ผึ้งที่นำมาใช้หยอดผางประทีปนั้นได้รับบริจาคเศษเทียนไขและขี้ผึ้งมาจากวัดวาอารามต่างๆ ในตัวเมืองเชียงใหม่ โดยกลุ่มเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ได้รวบรวมเศษเทียนไขและขี้ผึ้งนำมาต้มในกระทะร้อนๆ เพื่อให้เทียนไขและเศษขี้ผึ้งละลาย จากนั้นจึงตักใส่ตาน้ำแล้วนำไปหยอดลงในผางประทีปที่มีไส้ผางประทีปที่ทำจากผ้าฝ้ายสีขาว ทำเป็นสามแฉกแบบตีนกา เพื่อใช้เป็นไส้สำหรับจุดไฟให้ผางประทีปสว่างไสว
ขณะที่ นางรสสุคนธ์ ศรีบุญเรือง จากเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นต่อเนื่องทุกปี โดยปีนี้ใช้ผางประทีปมากกว่า 1 แสนดวง เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ประมาณ 7 – 8 หมื่นดวง คาดว่าจะใช้เวลาในการหยอดผางประทีปตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 พฤศจิกายน ซึ่งผู้ที่อยากเข้าร่วมทั้งนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป สามารถมาเข้าร่วมลงแรงในการหยอดผางประทีป และจัดเรียงผางประทีปรอบเมืองเชียงใหม่ได้
นางรสสุคนธ์ ศรีบุญเรือง
โดยวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ นอกจากจะมีกิจกรรม “ต๋ามผางประทีป ส่องฟ้า ฮักษาเมือง” ครั้งที่ 6 รอบคูเมืองเชียงใหม่ จะมีการจัดสาธิตทำโคมกระต่าย และสาธิตการหยอดผางประทีป รวมทั้งนิทรรศการวิธีทำผางประทีป เพื่อให้ความรู้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว เรื่องที่มาที่ไปของประเพณีจุดผางประทีป เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง รวมทั้งเพื่อรณรงค์งดปล่อยโคมลอย ซึ่งอาจจะเกิดอันตรายขึ้นได้
สำหรับการจุดผางปะติ๊ด หรือผางประทีป ในงานประเพณีเดือนยี่เป็งนั้น ตามตำนานเล่าว่า แม่กาเผือกได้ออกไข่มา 5 ฟอง เมื่อไข่ฟักออกมาแม่กาก็เสียชีวิตไป ไข่ทั้ง 5 ฟองเป็นพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ องค์ที่ 4 คือ องค์พระศรีอริยเมตไตรย และองค์ที่ 5 คือพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป การทำผางปะติ๊ดจึงทำไส้เทียนเป็นรูปตีนกา เพื่อรำลึกถึงพระคุณของแม่กาขาวและบูชาพระพุทธคุณ บูชาแม่พระคงคา และสืบสานประเพณีอันดีงามของล้านนา
