
ประเด็นคือ – ช้างป่าบุกพังร้านอาหารริมทาง ก่อนใช้งวงรื้อหาอาหารจนทรัพย์สินเสียหาย พร้อมขโมยกินเส้นก๋วยเตี๋ยว 10 กก. – น้ำตาลปี๊บ 2 กก.
วันที่ 7 ม.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่อุทยานหน่วยพิทักษ์เขาหุบเต่า ชุดเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้รับแจ้งจากนางนงเยาว์ แก้วสุกใส อายุ 48 ปี เจ้าของร้านอาหารครัวกันเอง ตั้งอยู่ริมถนนทางเข้า ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า มีช้างป่าบุกเข้ามาพังฝาผนังร้านอาหาร เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ข้าวของได้รับความเสียหาย ภายหลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปยังที่ร้านอาหารดังกล่าวพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าประเทศไทย (WCS) พบว่าสภาพภายในร้านอาหาร มีข้าวของล้มกระจัดกระจาย ทั้งตู้เย็นขนาด 10 คิว ตู้กระจกสำหรับใส่เครื่องปรุงส้มตำ และอาหารต่างๆ รวมทั้งวัตถุดิบอาหารแห้ง หม้อต้มยำตกกระจายอยู่บริเวณพื้นในร้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันเก็บข้าวของ

นางนงเยาว์ เจ้าของร้านอาหาร กล่าวว่า ช่วงเวลาประมาณ 03.00 น.วันนี้ ขณะที่ตนนอนพักอยู่ในบ้านพักหลังร้านอาหาร ได้ยินเสียงของหล่นดังโครมครามที่ร้านอาหารจึงได้รีบเดินออกมาดู เมื่อมาถึงพบช้างป่าตัวใหญ่ยืนอยู่ด้านนอกร้านอาหาร ใช้งวงพังฝาผนังร้านอาหารจนเป็นช่องโหว่ขนาดใหญ่ 2 จุด คือ บริเวณตู้กระจกเก็บอาหารและที่บริเวณตู้เย็น โดยช้างป่าตัวดังกล่าวใช้งวงควานหาของกินภายในร้าน โดยเมื่อตู้เย็นล้มลงช้างป่าได้ใช้งวงควานไปเจอถุงเส้นก๋วยเตี๋ยว ซึ่งมีทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ น้ำหนักประมาณ 10 กก. ที่วางใกล้ๆ ตู้เย็นเอาไปกินจนหมด อีกทั้งช้างป่าตัวนี้ยังคว้าโหลบรรจุน้ำตาลปี๊บ ประมาณ 2 กก. กินน้ำตาลปี๊บจนหมด

นางนงเยาว์ เล่าต่อว่า ตนได้ใช้ไฟฉายส่องเข้าไปที่ช้างป่าและรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ ซึ่งในระหว่างนั้นช้างป่าก็เดินผละออกจากร้านไป เมื่อตรวจสอบก็พบว่าข้าวของและทรัพย์สินเสียหายหลายรายการ รวมทั้งหลังคากระเบื้องก็ถูกช้างทำลายเสียหายบางส่วน ทั้งนี้ เจ้าของร้านอาหารยืนยันว่าไม่ใช่ ช้างป่าที่ชื่อ บุญมีและบุญช่วย ที่ทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน บอกว่าจะเคลื่อนย้ายออกไป
สำหรับร้านของตนได้ถูกช้างเข้ามาพังทรัพย์สินหลายครั้ง ช้างป่าเคยขโมยมะขามเปียกไปกินถึง 16 กก. ซึ่งไม่แน่ใจเหมือนกันว่าช้างป่าที่ออกมาอาละวาดทำลายทรัพย์สิน เกิดจากความเครียดทั้งจากการไล่ของชาวบ้านที่เฝ้าสวนเฝ้าไร่ และเจ้าหน้าที่ไล่หรือไม่ พอเจ้าหน้าที่กลับก็พากันมาอาละวาด

ขณะที่ นางน้ำเงิน สีสุกใส อายุ 50 ปี ชาวบ้านป่าละอู และเป็นพี่สาวของนางนางเยาว์ เมื่อทราบข่าวได้เดินทางมานั่งพูดคุยเป็นเพื่อนและสอบถามความเสียหาย พร้อมกล่าวยอมรับด้วยว่าปัญหาช้างป่าที่มาอาละวาด ทั้งช้างที่เป็นโขลงย่อย 5-10 ตัว ก็ยังออกมาหากินอยู่ซึ่งในส่วนของคอกวัวของตนก็ได้รับความเสียหาย ก็ต้องดำเนินการใช้เงินส่วนตัวซ่อมแซมไปเพราะเจ้าหน้าที่บอกว่าให้ช่วยเหลือตัวเองก่อน ตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าช้างกับคนจะต้องอยู่ร่วมกันได้อย่างไร

ทั้งนี้ ภายหลังเกิดเหตุ นายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าเขาหุบเต่า ชุดเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า, เจ้าหน้าที่สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าประเทศไทย (WCS) จึงเดินทางมาตรวจสอบความเสียหาย ร่วมกับนางสุนันทา พิมพ์ไทย นายก อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ โดยทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กล่าวว่าจะช่วยเยียวยาด้วยการซ่อมแซมผนังของร้านให้ในเบื้องต้น
อย่างไรแล้ว เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ก็เกิดเหตุช้างป่าเข้ามาอาละวาดในโครงการสหกรณ์หมู่บ้านห้วยสัตว์ใหญ่ป่าละอู-หนองพลับ ตามพระราชดำริ ที่หมู่ 1 บ้านเฉลิมเกียรติพัฒนา กัดกินโค่นต้นทุเรียน และทำลายรถยนต์ที่จอดอยู่ในโรงจอดรถหน้าบ้านพักได้รับความเสียหายมาแล้ว และครั้งนี้จุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากจุดที่ช้างป่าทำลายรถยนต์ไม่ถึงร้อยเมตร









