ตำรวจเชียงใหม่ รวบตัว “ช่างบูม” เจ้าของอู่ทำสี มือพ่นสีสเปรย์ทำรถเก๋งเสียหายหลายคัน สารภาพระบายแค้นถูกจอดรถขวางมานาน ทำเข้าออกลำบาก ตำรวจเผยถูกสับขาหลอกส่งมอบเซิร์ฟเวอร์วงจรปิดปลอม
ความคืบหน้าหลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีรถยนต์เก๋งที่จอดไว้ข้างกำแพงวัดล่ามช้าง ถนนมูลเมือง ซอย 7 ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ถูกมือมืดใช้สีสเปรย์พ่นเสียหายไป 3 คัน เมื่อคืนวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา สร้างความกังวลให้กับชาวบ้านและนักท่องเที่ยวที่จอดรถในย่านดังกล่าว ขณะที่หลังเกิดเหตุ เจ้าของรถได้เข้าแจ้งความขอให้ตำรวจติดตามจับกุมคนร้าย โดยบอกว่าก่อนหน้านี้มีรถถูกพ่นสีในลักษณะเดียวกันมาแล้ว 5 คัน รวมเป็น 8 คัน
วันนี้ (18 ธ.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ คุมตัวนายนพรัตน์ เสรีกิติวงศ์ หรือ ช่างบูม อายุ 39 ปี เจ้าของอู่ทำสีรถยนต์ที่อยู่ในซอยที่เกิดเหตุ ไปชี้จุดที่เกิดเหตุ หลังจากถูกจับกุมได้ว่าเป็นคนลงมือพ่นสีสเปรย์ในคืนเกิดเหตุ
นายนพรัตน์ สารภาพว่าเปิดอู่พ่นสีในซอยดังกล่าวมานาน ระยะหลังมีรถยนต์มาจอดริมถนนหน้าอู่ของตัวเองเป็นประจำทุกคืน ซึ่งถนนเป็นเดินรถทางเดียวและเป็นซอยแคบ เมื่อจอดแล้วทำให้รถผ่านเข้าออกลำบาก บางครั้งลูกลูกค้าที่เป็นรถคันใหญ่จะเข้ามาใช้บริการที่อู่ก็เข้าไม่ได้ ทำให้เสียรายได้ ขณะที่ตัวเองจะเข้าออกตอนกลางคืนก็ลำบาก ที่ผ่านมาเคยขอให้ไปจอดที่อื่น แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ กระทั่งคืนเกิดเหตุขณะกลับเข้าบ้านตอนดึกพบรถจอดอยู่จำนวนมาก จึงเกิดความคับแค้นใจ เดินไปเอาสีสเปรย์ที่อู่ออกมาพ่นระบายแค้น หลังจากนั้นก็เปิดให้บริการตามปกติ จนตำรวจนำหมายศาลมาจับกุม
นายนพรัตน์ กล่าวว่า ที่ทำไปไม่ได้ต้องการป่วนเมือง หรือสร้างความหวาดกลัวในพื้นที่ แต่เป็นเพราะอัดอั้นมานาน ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้น ยินยอมชดให้ให้ผู้เสียหาย
พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่
พ.ต.อ.ปิยะพันธุ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุชุดสืบสวนได้ไปขอตรวจสอบภาพวงจรปิดจากอู่ทำสีของนายนพรัตน์ เพราะอยู่ในซอยที่เกิดเหตุ แต่นายนพรัตน์กลับนำเซิร์ฟเวอร์ปลอมที่ไม่มีภาพจากกล้องในคืนเกิดเหตุมาให้ ทำให้เจ้าหน้าที่จับพิรุธพร้อมกับสอบสวนอย่างละเอียด จนในที่สุดนายนพรัตน์ยอมสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุ
สำหรับคดีนี้แม้จะเป็นคดีเล็กน้อย แต่บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นย่านเกสต์เฮ้าส์ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติอยู่กันหนาแน่น จึงต้องมีความปลอดภัยในทุกด้าน เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งสืบสวนจนจับกุมได้ ขณะเดียวกันได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้อยู่อาศัยในบริเวณดังกล่าวจอดรถโดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น แม้จะเป็นถนนสาธารณะ แต่หากคนอื่นได้รับผลกระทบก็อาจบานปลายอย่างเช่นคดีนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าปัญหาการจอดรถในซอยแคบบริเวณนี้สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อยู่อาศัยมานาน โดยพระครูปลัดอานนท์ วิสุทโธ เจ้าอาวาสวัดล่ามช้าง บอกว่า ที่ผ่านมามีรถยนต์มาจอดข้างกำแพงวัดเป็นประจำ ทำให้รถขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าออกซอยได้ เกรงว่าหากเกิดเหตุเพลิงไหม้หรือเหตุฉุกเฉิน รถดับเพลิงจะเข้าไม่ได้ ที่ผ่านมาร้องเรียนตำรวจไปแล้วแต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข ยังมีจอดเต็มซอยเหมือนเดิม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
