
ประเด็นคือ – ทะเลสาบดอยเต่าฟื้นคืนชีพอีกครั้ง หลังภัยแล้งลามจนน้ำแห้งขอดกลายเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์นานกว่า 5 ปี แพที่พักกลับมาคึกคัก เตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยว
วันที่ 13 พ.ย. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทะเลสาบดอยเต่า ในอำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากต้องเผชิญปัญหาภัยแล้งจนน้ำแห้งขอดจนกลายเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์และไร่ข้าวโพดนานกว่า 5 ปี ขณะที่ผู้ประกอบการเรือนแพร้านอาหารและท่องเที่ยวต่างพากันเร่งเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเยือนทะเลสาบดอยเต่า โดยเฉพาะฤดูหนาวนี้ในช่วงเช้าจะได้สัมผัสกับทะเลหมอกที่ปกคลุมตามเทือกเขาที่โอบล้อมทะเลสาบ พร้อมกับสายลมหนาวที่พัดโชยมา

นอกจากจะได้ชมวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบแล้ว นักท่องเที่ยวยังจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวแพที่อาศัยทะเลสาบแห่งนี้ในการดำรงชีวิต และทำมาหากินอีกด้วย
นายประเสริฐ สุนันตา เจ้าของเรือนแพธารทิพย์ เปิดเผยว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวของทะเลสาบดอยเต่ากลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยระดับน้ำเพิ่มขึ้นกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ แม้จะไม่ถึง 100 เปอร์เซ็นต์เหมือนในอดีต แต่ก็เชื่อว่าน้ำที่สูงขึ้นระดับนี้จะทาวแพอยู่กันได้อีกไม่ต่ำกว่า 1 ปี ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ทราบข่าวก็เริ่มเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับผู้ประกอบการแพที่มีอยู่บริเวณทะเลสาบดอยเต่า รายใหญ่มีอยู่ 3 แพ มีทั้งแพร้านอาหาร และแพที่พัก อัตราค่าใช้บริการ แพชักลากแบบส่วนตัว รับได้ 6 – 8 คน ชั่วโมงละ 400 บาท , 2 ชั่วโมง 600 บาท ถ้าตลอดทั้งวันอยู่ที่ 800 – 1,000 บาท และหากต้องการค้างคืนบนแพ เริ่มต้นที่ 1,000 – 1,500 บาท รับได้ไม่เกิน 10 คน
ด้านว่าที่ร้อยตรี บำรุงเกียรติ วินัยพานิช

นายอำเภอดอยเต่า กล่าวว่า ปัจจุบันทะเลสาบดอยเต่ามีระดับน้ำอยู่ราว 80 เปอร์เซ็นต์ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเพราะยังมีน้ำฝนและจากน้ำแหล่งน้ำ และแม่น้ำสาขาต่างๆไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้ประกอบการแพที่เคยลากแพไปอยู่ในอำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ก็ชักลากแพกลับมาอยู่บริเวณทะเลสาบดอยเต่ามากขึ้น ขณะที่นักท่องเที่ยวก็เริ่มทยอยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวกันอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ โดยเฉพาะในวันหยุด ส่งผลให้เศรษฐกิจภายในท้องถิ่นกลับมาคึกคักอีกครั้ง









