ประเด็นคือ – ปริมาณน้ำที่สะสมเข้าท่วมนานกว่า 4 เดือน ที่ จ.พิจิตร ส่งผลให้สวนฝรั่งกิมจูที่เกษตรกรได้ปลูกไว้จำนวนกว่า 5 ไร่ เริ่มยืนต้นตาย ทั้งที่กำลังจะได้เก็บผลผลิต ทำให้ผลผลิตเน่า เกิดความเสียหาย
วันที่ 18 พ.ย. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในจังหวัดพิจิตรที่กำลังเริ่มลดลงอย่างช้าๆ จากพื้นที่ในทุ่งการเกษตร ส่งผลกระทบต่อสวนฝรั่งกิมจูของเกษตรกร ตำบลโรงช้าง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ที่ปลูกไว้กว่า 5 ไร่ ที่ต้องถูกน้ำท่วมนานกว่า 4 เดือน เริ่มยืนต้นตายทั้งที่กำลังจะได้เก็บผลผลิตส่งขายสู่ท้องตลาด ซึ่งถูกน้ำสะสมจากที่มีอยู่ในแม่น้ำยมและน้ำจากทุ่งการเกษตร ได้ไหลท่วมขังสวนฝรั่งนานกว่า 4 เดือน จนต้นฝรั่งเริ่มมีอาการใบเหี่ยวเฉาและยืนต้นตาย เนื่องจากถูกน้ำท่วมขังนาน
ถ้าหากสถานการณ์น้ำยังคงท่วมขังอยู่ คาดว่าสวนฝรั่งต้องยืนต้นตายหมดทั้งสวน โดยในช่วงออกผลผลิต เกษตรกรที่ปลูกฝรั่งจะมีรายได้ 2 ครั้ง ต่อปี ไม่ต่ำกว่าแสนบาท แต่ในปีนี้ เกษตรกรชาวสวนฝรั่งต้องถูกน้ำท่วมขัง และห่อผลผลิตไม่ทัน ส่งผลกระทบกับรายได้ที่ลดลงและเสี่ยงกับน้ำท่วมต้นฝรั่งตาย
ล่าสุดระดับน้ำเริ่มลดระดับลงอย่างช้าๆ เนื่องจากปริมาณน้ำสะสมที่มีอยู่ในแม่น้ำยมและพื้นที่การเกษตรจำนวนมากที่ยังคงท่วมขัง ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์ปัจจุบัน จังหวัดพิจิตรยังคงต้องประสบปัญหาอุทกภัยจำนวนทั้งสิ้น 7 อำเภอ 41 ตำบล 183 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,858 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ 21,474 ไร่
