
ประเด็นคือ – นายกฯ มอง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค พ.ย.60 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง สูงสุดในรอบ 33 เดือน เป็นผลจาก มาตรการช้อปช่วยชาติ, บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และการส่งออก
เมื่อวานนี้ (9 ธ.ค.60) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยินดีที่ได้รับทราบรายงานดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ประจำเดือน พ.ย.60 สำรวจโดย ม.หอการค้าไทย ซึ่งระบุว่า ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นทุกตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 78 จาก 76.7 เมื่อเดือน ต.ค. โดยถือว่า เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 33 เดือน

“ดัชนีที่เพิ่มขึ้นทุกตัว ได้รับอานิสงส์จากมาตรการช้อปช่วยชาติ ที่หมุนเศรษฐกิจให้คึกคัก โดยเฉพาะการจับจ่ายของชนชั้นกลาง และมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งคนฐานรากได้ประโยชน์ ประกอบกับการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยรวมถึงการส่งออกดีเกินคาด ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นดีขึ้นเป็นลำดับ” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับผู้มีรายได้น้อย และกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยในกลุ่มประชาชนทั่วไป ซึ่งจะส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายสินค้าและบริการในช่วงสิ้นปีถึงปีใหม่คึกคัก และเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อว่า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างชัดเจนในไตรมาสที่ 2 ของปีหน้า อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังคงห่วงใยและพยายามแก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร และสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ให้ดีขึ้นโดยเร็ว

นอกจากนี้ เป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่รายงานแนวโน้มการเติบโตแบบมีส่วนร่วมของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกในระยะยาวของธนาคารโลกได้ระบุว่า ประเทศไทยได้เริ่มหลุดพ้นจากความยากจน และกำลังก้าวสู่ความมั่งคั่ง พร้อมกับเสนอ 3 แนวทางที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคม คือ
- ให้โอกาสด้านเศรษฐกิจกับผู้มีรายได้น้อย
- มีระบบการดูแลด้านสังคม สาธารณสุข ประกันสังคม และการส่งเสริมการออม
- การใช้มาตรการทางการเงินการคลัง เช่น มาตรการภาษี ช่วยลดปัญหาความไม่เสมอภาค
ซึ่งทั้งหมดนี้สอดคล้องกับแนวทางที่รัฐบาลได้ดำเนินการในปัจจุบัน และแผนที่วางไว้ในอนาคตด้วย









