
นายกรัฐมนตรี เผย เตรียมการหารือพรรคการเมืองเพื่อปลดล็อกเต็มรูปแบบก่อนการเลือกตั้ง ในเดือน พ.ย. ไม่เกิน ต้นเดือน ธ.ค. พร้อมยังสงวนท่าทีเรื่องอนาคตทางการเมืองของตนเอง
ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (หัวหน้าคสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ถึงความชัดเจนในการนัดหารือกับพรรคการเมืองเพื่อปลดล็อก ภายในเดือน พ.ย.นี้ หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แบ่งเขตเลือกตั้งทั่วประเทศเสร็จสิ้นว่า มีการเตรียมการไว้อยู่แล้ว จะเป็นเดือน พ.ย. หรือ ต้นเดือน ธ.ค. ต้องดูอีกครั้ง ต้องดูเวลาที่เหมาะสม โดยช่วงนี้จะรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ทั้งแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ซึ่งในสื่อโซเชียลมีเดียมีการพูดกันเยอะไปหมด ตนได้มอบหมาย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมายรวบรวมไว้ทั้งหมดแล้ว และหารือกับ กกต.
“ต่างคนก็ต้องต่างฟัง ผมก็จะทนและจะฟังให้มากที่สุด ถ้าท่านพูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์แม้แต่การเลือกตั้ง แต่ไม่ใช่พูดในทำนองที่ทำให้การเลือกตั้งเกิดความสับสนอลหม่าน เพราะวันนี้ประเทศไทยกำลังเดินหน้าไปด้วยดี” นายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีพรรคเพื่อไทยเปิดรายชื่อผู้ที่จะถูกเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วนายกฯ พร้อมจะเปิดตัวหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า พรรคการเมืองไหนจะเสนอใครก็ว่ากันไป ส่วนตนยังไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับใคร และยังไม่มีกำหนดเวลาว่า ต้องเมื่อไหร่อย่างไร
“ถ้าถึงเวลาถ้าผมจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับทางการเมืองก็ค่อยว่ากันอีกที อย่าไปให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากนัก อยากให้ดูว่ารัฐบาลนี้ทำอะไรมากกว่า และไปดูว่ารัฐบาลต่อไปจะทำอะไรอีกบ้างได้มากกว่าที่ผมทำหรือไม่ เพราะฉะนั้นขอร้องว่า อย่าไปฟังว่าไอ้นั่นจะทำไอ้นี่จะไม่ทำ เลิกเสียที ทำใหม่ เพราะมันไม่ง่ายนักหรอก ถ้าทุกคนเข้ามาอยู่ในระบบการบริหารราชการแผ่นดินอย่างที่ผมทำอยู่ในเวลานี้”
เมื่อถามว่า ขณะนี้มีเสียงสะท้อนในเชิงลบ จะมีผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาลและคสช.หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนฟังเสียงสะท้อนทั้งเชิงลบและเชิงบวก ยืนยันว่าไม่ว่าเสียงสะท้อนเชิงลบจะมีมากหรือน้อย ก็ไม่มีผลต่อการตัดสินใจของตน ทั้งนี้เหตุผลที่จะทำให้ตนตัดสินใจก็อยู่ที่ความสงบเรียบร้อยเป็นหลัก การดำเนินการการบริหารประเทศ ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทเป็นสิ่งที่ตนติดตามอยู่ตลอดเวลา ก็หวังว่า ประชาชนและข้าราชการจะเข้าใจว่า วันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่ ซึ่งวันนี้ได้มอบหมายให้สำนักโฆษก กระทรวง และหน่วยงานต่างๆ ติดตามความคิดเห็นที่เข้ามาในช่องทางการสื่อสารของตน บางเรื่องจะมีการตอบคำถามแทนตนด้วย เพราะบางเรื่องตนก็ไม่สามารถตอบได้รู้เพียงหลักการและนโยบาย รายละเอียดการปฏิบัติหน่วยงานที่รับผิดชอบต้องตอบแทนได้ ดังนั้นเฟซบุ๊กของนายกฯ ถือเป็นฐานข้อมูลกลางและสื่อกลางเพิ่มเติมจากช่องทางของกระทรวงต่างๆ

เมื่อถามถึงคำทำนายของหมอดูที่ระบุว่า จะได้เป็นนายกฯ ต่อ รวมถึงแฟนคลับชาวเชียงใหม่ต้องการให้ไปลงพื้นที่ ซึ่งนายกฯ ได้รับปากนั้นจะไปเมื่อไหร่ หรือต้องรอให้เข้าสู่เวทีการเมืองก่อน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวตอบด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายว่า “คำถามที่พวกท่านถามมาเวิ่นเว้อเป็นการเมืองทั้งสิ้น ผมขี้เกียจตอบ และไม่ได้โมโหใคร แต่ขี้เกียจตอบ เพราะมันไม่มีประโยชน์กับผมหรือใครเลยทั้งสิ้น”
เมื่อถามว่า จะมีการปรับช่องทางการสื่อสารหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้มีการบิดเบือนข้อมูล นายกฯ กล่าวว่า ทุกอย่างก็จะเป็นเหมือนเดิม เพราะคนที่เสนอข่าวข้อมูลก็เป็นคนเดิม โดยเฉพาะสื่อมวลชนก็ยังเป็นแบบเดิมก็ไม่สามารถแก้อะไรได้ทั้งนั้น แต่ก็ขอขอบคุณทุกคน เมื่อถามว่า ถึงวันนี้นายกฯ เหนื่อยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่เหนื่อย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาการบาดเจ็บจากอาการนิ้วมือด้านขวาซ้น ของพล.อ.ประยุทธ์ คาดว่าจะมีอาการหนักขึ้น เนื่องจากพยาบาลได้ทำการพันในลักษณะเฝือกอ่อนเต็มฝ่ามือ คาดว่า มาจากการที่พล.อ.ประยุทธ์ ได้จับเชือกโล้ชิงช้าระหว่างลงพื้นที่ รวมทั้งได้พบปะชาวบ้านมีการจับมือ ซึ่งชาวบ้านบางคนไม่ทราบว่านายกฯ มีอาการบาดเจ็บมาก่อน จึงจับแรงอย่างเต็มที่ จนบางครั้งพล.อ.ประยุทธ์ ถึงกับแสดงอาการบาดเจ็บให้เห็นอย่างชัดเจน พร้อมบอกว่า ยังเจ็บมืออยู่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง









