
ประเด็นคือ – นายกรัฐมนตรี ชี้แจงราคายางพาราตกต่ำ เพราะมีการผลิตมากขึ้น ตั้งแต่ปี 2554 – 2558 ขอห่วงโซ่ยางพาราเข้าใจ และ อดทน วอนอย่าเข้ามาชุมนุมในกรุงเทพฯ หรือ โยงกับการเมือง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ชี้แจงสถานการณ์ราคายางพาราที่ตกต่ำ โดยย้ำว่า ปัญหานี้ต้องพูดคุยกันด้วยเหตุผลบนข้อเท็จจริงอย่างเปิดเผย จำเป็นต้องเข้าใจในภาพรวม เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาที่จะร่วมมือกันได้ พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลร่วมมือกับประเทศผู้ผลิตยางพาราที่สำคัญของโลกมาโดยตลอด ผ่านสภาไตรภาคียางระหว่างประเทศ (อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และไทย) ซึ่งมีมาตรการควบคุมอุปทานยาง ให้อนาคตมีปริมาณการผลิตยางพาราของแต่ละประเทศในปริมาณที่เหมาะสม

แต่ส่วนใหญ่ต้องยอมรับว่า มีปัญหาที่ประเทศเรา ถ้าหากสถานการณ์ยางพาราตกต่ำมาก ก็จะต้องมีมาตรการในการควบคุมปริมาณการส่งออกยางพาราของประเทศสมาชิกซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องหารือกัน บางครั้งประเทศสมาชิกอาจไม่เห็นชอบในมาตรการต่างๆ เพราะประเทศเขาไม่เดือดร้อน หรือ เดือดร้อนน้อย

“ผมอยากให้ทุกฝ่ายในห่วงโซ่ของยางพาราไทยได้มีความเข้าใจที่ตรงกัน ขอให้ทุกคนได้อดทน เปลี่ยนแปลง ไว้ใจซึ่งกันและกัน แล้วก็มีหลักการและเหตุผลไม่ว่าจะประท้วง หรือ ยื่นหนังสืออะไรต่างๆ ก็ตาม ผมขอร้อง ขอให้ยื่นอย่างสงบแล้วกัน ไม่อยากให้มีการนำเกษตรกรเข้ามาที่กรุงเทพ ต้องมายื่นกับนายกรัฐมนตรี มาคนเดียวยื่นในพื้นที่ แล้วเขาก็ส่งถึงผมอยู่ดี มาเสียเวลาการทำมาหากินเปล่าๆ สิ้นเปลืองด้วย

ผมไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องของการเมือง ผมเข้าใจเศรษฐกิจสำคัญที่สุด ปัญหาอยู่ที่ว่าถ้าทุกคนทำสวนยาง เมื่อยางราคาไม่ดี คุณภาพชีวิตก็ไม่ดี เพราะรายได้มีแต่ยางอย่างเดียว ต้องคิดใหมจะได้แก้ปัญหาได้ร่วมกัน ตามนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล ทุกฝ่ายก็มีประโยชน์ร่วมกัน รัฐบาลก็ไม่มีข้อขัดแย้ง มีรายได้มากขึ้น ประชาชน เกษตรกรสวนยาง หรือเกษตรกรอื่นๆ ก็ต้องทำเช่นเดียวกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวสรุป









