
พรรคประชาธิปัตย์ส่งชื่อปาร์ตี้ลิสต์ครบ 150 คน ประเมินคะแนนเก่า 40 คนแรกสอบผ่านแน่ รวมกับ ส.ส.เขต อีก 100 คน ยืนยันส่วนใหญ่ในพรรครับลำดับได้ ส่วนโกวิทย์ ธารณา ที่ลาออกเพราะน้อยใจอันดับไม่ดี ยังติดต่อไม่ได้
วันที่ 7 ก.พ. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรค, นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค นำสมาชิกพรรคไปที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อยื่นสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ครบทั้ง 150 คน และยื่นบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรค 1 คน คือ นายอภิสิทธิ์

สำหรับรายชื่อ ส.ส. บัญชีรายชื่อ 10 ลำดับแรก ได้แก่ 1.นายอภิสิทธิ์ 2.นายชวน หลีกภัย 3.นายบัญญัติ บรรทัดฐาน 4.นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ 5. คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช 6. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ 7. นายกรณ์ จาติกวณิช 8. นายจุติ ไกรฤกษ์ 9. นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ 10.นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู
ส่วนอันดับอื่นๆ ที่น่าสนใจ ลำดับ 20.นางสาวจิตภัสร์ กฤดากร 30.นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข 32. นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ 33. นายสุรบถ หลีกภัย 42.นายบุญยอด สุขถิ่นไทย 46.นายวัชระ เพชรทอง 58. นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต 150.นายอาคม เอ่งฉ้วน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกคนที่อยู่ในบัญชีคือคนที่ทำงานให้พรรค แม้ในใจอยากให้ทุกคนได้เป็น ส.ส. แต่ต้องเรียงลำดับ ซึ่งได้มีการประชุมกับผู้ที่มีรายชื่อทั้ง 150 คน โดยได้ซักซ้อมความเข้าใจกันว่า หากใครคิดว่าตัวเองอยู่ระดับต่ำกว่าก็บอกมา ถ้าจัดลำดับใหม่ให้ได้ก็จะพิจารณาให้ แต่ส่วนใหญ่ไม่มีใครติดใจและขอให้พรรคเป็นคนจัดรายชื่อทั้งหมด ซึ่งทุกคนสามารถเป็นผู้แทนได้และคิดว่าทุกคนจะพอใจ กับรายชื่อที่ออกมา
ส่วนที่มีข่าวว่านายโกวิทย์ ธารณา อดีต ส.ส.กรุงเทพฯ ของพรรคลาออกไปเพราะน้อยใจเพราะได้ลำดับไม่ดีนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่มีโอกาสได้คุยกัน แต่ยืนยันว่านายโกวิทย์สนใจทำงานในส่วนของ กรุงเทพมหานคร โดยทางเลขาธิการพรรคบอกว่าจะมีการมายื่นใบลาออก ซึ่งนายโกวิทย์ไม่ได้อยู่ในรายชื่อเพราะขณะที่จัดลำดับนั้นไม่สามารถติดต่อได้

สำหรับการประเมิน ส.ส.ที่จะได้ นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า ตอบยากเพราะ ส.ส.บัญชีรายชื่อขึ้นอยู่กับจำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขตด้วย แต่หากคะแนนเท่ากับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ส.ส.เขตน่าจะได้ประมาณ 100 คน บัญชีรายชื่อประมาณ 40 คน
เมื่อถามถึงโอกาสเกิดรัฐบาลแห่งชาติ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มองว่าเราเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง ควรให้ประชาชนได้ตัดสินใจก่อนว่าอยากให้ใครพรรคการเมืองใดเป็นผู้แทน อยากให้ใครมีคะแนนเสียงมากและสนับสนุนใครเป็นนายกฯ ซึ่งว่าตามกระบวนการ ควรปล่อยให้กระบวนการการเลือกตั้งเดินไปแล้วทุกคนมุ่งสู่ตรงนั้น ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลต้องไปดูผลการเลือกตั้งจะพูดก่อนผลเลือกตั้งก็กระไรอยู่ ไม่อย่างนั้นจะเลือกตั้งทำไม โดยตัวเองเห็นมีข่าวทำนองนี้ตลอดเวลา ในเรื่องรัฐบาลแห่งชาติ รัฐบาลเฉพาะกาล รัฐบาลเฉพาะกิจ แต่จากที่เราสัมผัสกับประชาชนพบว่า รอคอยการมีส่วนร่วมที่จะกำหนดอนาคตว่าทำอย่างไรจึงจะพ้นจากภาวะเศรษฐกิจแบบนี้









