ป้าพุ่งชน รปภ.สนามบินเชียงใหม่ เจ็บสาหัส หลังถูกล็อกล้อ อ้างป่วยจำอะไรไม่ได้

ป้าพุ่งชน รปภ.สนามบินเชียงใหม่ เจ็บสาหัส หลังถูกล็อกล้อ อ้างป่วยจำอะไรไม่ได้

ในประเทศ

ป้าขับรถทับร่าง รปภ. สนามบินเชียงใหม่ บาดเจ็บสาหัส และยังทำรถเสียหายหลายคัน หลังถูกล็อกล้อรถเหตุจอดในจุดรับส่งผู้โดยสารนานนับชั่วโมง อ้างป่วยพาร์กินสันจำเหตุการณ์ไม่ได้ แต่พร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง

วันที่ 20 ส.ค. 61 เวลา 16.15 น. เกิดเหตุคุณป้าวัย 69 ปี ขับรถยนต์กระบะ โตโยต้าวีโก้ สีบลอนด์ กร 4459 เชียงใหม่ พุ่งชน นายวัชระ ไชยวงศ์ เจ้าหน้าที่จราจรของบริษัท​เอ็มเอไออินเตอร์เนชั่นแนล ​ขณะปฏิบัติหน้าที่จราจรหน้าประตูหมายเลข 5 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลและเลือดไหลตามร่างกาย ขาข้างซ้ายผิดรูป ก่อนถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่

คุณป้าคนดังกล่าวทราบชื่อต่อมาคือ นางสาวภัทรา บุญเฉลียว อายุ 69 ปี ยังได้ขับกระบะพุ่งชนรถในบริเวณเดียวกันเสียหายอีก 4 คัน สร้างความแตกตื่นให้กับผู้โดยสาร ขณะที่เจ้าหน้าที่ใช้เวลาไม่นานเข้าควบคุมตัวส่ง สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นางภัทรา ซึ่งมาส่งเพื่อนที่สนามบินและจอดบริเวณที่ห้ามจอดนานกว่า 1 ชั่วโมง จึงถูกเจ้าหน้าที่ล็อกล้อ พอนางภัทราออกมาเจ้าหน้าที่จราจรของสนามบินก็ปลดล็อกให้ นางภัทราก็ขึ้นรถเพื่อขับออกไป อยู่ๆ ก็ขับพุ่งชนนายวัชระที่ยื่นอยู่กลางถนนคอยโบกรถ และพุ่งไปชนรถที่จอดอยู่ข้างหน้า

เรืออากาศโท วศิน พลนาวี รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ รักษาการแทนผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระบุสาเหตุเบื้องต้นทราบว่า หญิงคนดังกล่าวได้ขับรถยนต์กระบะมาจอดทิ้งไว้บริเวณหน้าชานชาลาอาคารผู้โดยสารนาน ซึ่งโดยปกติจะอนุญาตให้จอดรับส่งผู้โดยสารเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการล็อกล้อตามระเบียบ จึงคาดว่าจะเป็นสาเหตุให้เกิดความโมโหขับรถพุ่งชนเจ้าหน้าที่และชนรถยนต์ที่จอดบริเวณดังกล่าวอีกหลายคัน

ขณะที่นางภัทราผู้ก่อเหตุก็ได้บอกว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถมาส่งเพื่อนชาวต่างชาติที่สนามบิน หลังจากนั้นได้ยินประกาศเรื่องจอดรถผิดจึงเดินออกมา เมื่อเจ้าหน้าที่ปลดล็อกล้อได้ขับออกไปตามปกติ ไม่ได้โมโหที่ถูกล็อกล้อ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจำไม่ได้ เนื่องจากป่วยด้วยโรคพาร์กินสันและสมองฝ่อมานานเกือบ 20 ปี เหตุที่เกิดครั้งนี้ทำลงไปโดยไม่รู้ตัว และพร้อมจะรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น

หลังเกิดเหตุ นายดล ใจไหว อายุ 41 ปี คนดูแลนางภัทรา ได้นำใบรับรองการรักษาโรงพยาบาลประสาท มาให้เจ้าหน้าที่ดู และระบุว่านางภัทราเป็นโรคอัลไซเมอร์ และโรคพาร์กินสัน กำลังอยู่ในระหว่างรักษา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตัวนางสาวภัทราจำอะไรไม่ได้ แต่ญาติพร้อมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด รวมถึงการดูแลคนเจ็บและยอมรับผลทางคดีความ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ตั้งข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย ส่วนข้อหาอื่นกำลังรอผลการตรวจจากแพทย์ และจะได้เชิญนางสาวภัทรามาสอบปากคำและแจ้งข้อหาอื่นๆ ต่อไป

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง