ดูเหมือนว่าการผลักดันกฎหมายเพื่อปลดล็อกกัญชา – กระท่อม ให้ออกจากยาเสพติดให้โทษใกล้จะเป็นจริง
หากมองเพียงผลโหวตของประชาชน ที่แสดงความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ บนเว็บไซต์วุฒิสภา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ยอดโหวตร้อยละ 99 เห็นด้วย มีเพียงร้อยละ 1 เท่านั้นที่เห็นต่าง
แต่หากมองเรื่องนี้ผ่านสายตานักวิชาการ แพทย์ เภสัชกร รวมถึงผู้ป่วยโรคมะเร็ง พบว่า พวกเขายังกังวลใจไม่น้อยว่า ร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ที่จะเปิดรับฟังความเห็นครั้งใหญ่ในสิ้นเดือนนี้ อาจจะไม่เสร็จภายในสิ้นปี หากรัฐบาลยังไม่จริงจังกับการแก้ไขปัญหา ก็น่าจะไม่สามารถปลดล็อกได้ในรัฐบาล คสช.
กัญชา / ภาพ: pixabay
ผลโหวตบนเว็บไซต์วุฒิสภา ที่เปิดให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ เพื่อปลดล็อกกัญชา-กระท่อม ฉบับ นายสมชาย แสวงการ เลขานุการวิป สนช. และ สนช.44 คน
เมื่อวันที่ 1-15 ตุลาคมที่ผ่านมา พบว่ามีประชาชนร่วมแสดงความเห็น 16,431 คน มีประชาชน 16,264 คน เห็นด้วย คิดเป็นร้อยละ 99 และไม่เห็นด้วย 150 คน คิดเป็นร้อยละ 1 ที่เหลืองดออกเสียง
ต้นกระท่อม
แม้ผลโหวตจะถล่มทลาย หนุนให้ประเทศไทยปลดล็อกกฎหมายกัญชา-กระท่อม เหมือนกับในหลายประเทศ แต่นักกฎหมาย แพทย์ เภสัชกร และผู้ป่วยโรคมะเร็ง กลับยังกังวลใจ จึงเตรียมที่จะยื่นร่างกฎหมายกัญชา-กระท่อมให้เป็นอิสระจากยาเสพติด ฉบับภาคประชาชนจาก 15 องค์กร ให้ สนช.พิจารณาร่วมกันอีกครั้ง
แม้ที่ผ่านมาจะเคยยื่นเรื่องให้รัฐบาลใช้อำนาจมาตรา 44 ปลดล็อกกฎหมายเพื่อความรวดเร็ว แต่ผู้จัดการศูนย์เฝ้าระวังและพัฒนาระบบยาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยอมรับว่า หากเป็นไปได้อยากจะให้ร่างกฎหมายฉบับแก้ไขของ สนช. ผ่านเข้าสู่สภาตามระบบปกติ แต่รัฐบาลจะต้องตัดสินให้เร็วกว่านี้ เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยขาดโอกาสในการรักษา
ผศ.ภกญ.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ผจก.ศูนย์วิชาการเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา
ขณะที่ในวัน 30 ตุลาคมนี้ สนช.จะเปิดเวทีรับฟังความเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษจากภาคประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อให้ร่างกฎหมายสมบูรณ์แบบครบถ้วนมากที่สุด ก่อนจะเข้าสู่การพิจารณาของสภา คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ ซึ่ง สนช.คาดว่าจะเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งในประเทศไทย
