
โลกโซเชียลฯ ล่ารายชื่อขับไล่ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ หมอกควันเชียงใหม่ยังคงหนาแน่น และค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐาน ขณะที่ทุกภาคส่วนเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน
ชาวเชียงใหม่สร้างแคมเปญรณรงค์เปลี่ยนผู้ว่าฯเชียงใหม่ ไร้ประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาฝุ่นควัน หลังประสบปัญหาเรื่องฝุ่นควันพิษจากการเผาป่าเผาไร่และเกษตรกรรมพันธสัญญาสะสมมาเป็นเวลากว่าสิบปีในช่วงหน้าแล้ง และทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกปี จนกระทั่งปีนี้ ค่าปริมาณฝุ่นควันพิษในอากาศ PM 2.5 สูงที่สุดในโลกติดต่อกันหลายวัน แต่ที่ผ่านมานายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ไม่มีการออกประกาศ การแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบถึงความอันตรายต่อสุขภาพแต่อย่างใด ทั้งยังปิดบังข้อมูล ตำหนิผู้ที่ออกมาเคลื่อนไหว ทั้งที่ประชาชนบางส่วนได้ระดมความคิดเห็นและยื่นข้อเสนอแนะการแก้ไขปัญหาฝุ่นควันพิษอย่างละเอียด รอบคอบ ครอบคลุมทั้งระยะเร่งด่วนและระยะยาวแล้ว แต่ทางจังหวัดเชียงใหม่ก็มิได้มีการนำข้อเสนอแนะดังกล่าวมาออกประกาศเร่งด่วนเพื่อรักษาสุขภาพผู้คนทั่วไปที่ยังใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ใส่หน้ากากกรองฝุ่น ไม่ปิดประตูหน้าต่าง ไม่ตระหนักถึงอันตรายที่มีต่อชีวิต โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงคือ เด็ก ผู้ป่วย คนชรา เนื่องจากไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการจากภาครัฐ จนถึงระดับผู้ใหญ่บ้าน
ล่าสุดมีผู้ลงชื่อสนับสนุนโครงการแล้ว 17,286 คน

ขณะที่วานนี้รายงานคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมิลพิษ เมื่อเวลา 14.00 น. คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ “มีผลกระทบต่อสุขภาพ” ในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ โดยพื้นที่ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ วัดค่าฝุ่น PM2.5 ได้ 233 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) สูงสุดอยู่ที่ 343 ส่วนในพื้นที่ ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่อ่องสอน วัดค่าฝุ่น PM2.5 ได้ 233 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) สูงสุดอยู่ที่ 349

ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์สมพร จันทระ หัวหน้าศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า เนื่องจากในวันที่ 24 มีนาคม 2562 จะเกิดภาวะวิกฤตหมอกควัน และค่าฝุ่นละออง ที่ยังคงเกินมาตรฐานในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จึงแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้งโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และหญิงมีครรภ์ พร้อมทั้งขอให้กลุ่มเสี่ยงและประชาชนทั่วไปสวมหน้ากากอนามัย เมื่อต้องออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้ง ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งระดม ทั้งกำลังพล วัสดุอุปกรณ์ และเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า รวมถึงค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกินมาตรฐานในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่อย่างเร่งด่วนโดยเพิ่ม การสร้างม่านน้ำในพื้นที่บริเวณรอบคูเมืองเชียงใหม่โดยสถาบันอาชีวศึกษาเชียงใหม่ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้สามารถฟอกอากาศให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยได้ดำเนินการ นำร่อง 10 จุด บริเวณโดยรอบคูเมืองเชียงใหม่ ซึ่งจะแล้วเสร็จในวันที่ 24 มี.ค. 62 หลังจากนั้นจะดำเนินการในพื้นที่อื่นต่อไป









