
ประกาศพื้นที่ในกรุงเทพฯทั้งหมด 50 เขตเป็นพื้นที่ควบคุม หลังฝุ่น PM2.5 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ซึ่งมีมาตราการ เช่น ห้ามใช้รถเครื่องยนต์ดีเซลที่มีค่าควันดำวิ่งบนถนน ห้ามเผาในที่โล่งเว้นแต่ทำตามประเพณี และโครงการก่อสร้างให้ทำตามมาตรการลดฝุ่นอย่างเคร่งครัด
วันที่ 30 ม.ค. 2562 นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงข่าวภายหลังการประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ว่า กรุงเทพมหานครเชิญหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมเพื่อรับทราบมาตรการและประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง กำหนดพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ ซึ่งออกตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560
อันเนื่องมาจากคุณภาพของอากาศ ที่ส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพของประชาชนโดยได้กำหนดพื้นที่กรุงเทพทั้ง 50 เขตเป็นพื้นที่ควบคุม และกำหนดมาตรการควบคุมไว้หลายประการ อาทิ ห้ามมิให้นำรถเครื่องยนต์ดีเซลที่มีค่าควันดำเกินมาตรฐานมาวิ่งใช้งานบนท้องถนน ห้ามการเผาในที่โล่งแจ้งในพื้นที่กรุงเทพฯ เว้นแต่การเผาตามขนบธรรมเนียมและจารีตประเพณี และกำหนดให้โครงการก่อสร้างทุกโครงการปฏิบัติตามมาตรการลดฝุ่นละอองอย่างเคร่งครัด

กรุงเทพมหานครมอบหมายให้สำนักการโยธาเชิญหน่วยงานก่อสร้างสาธารณูปโภค ผู้ประกอบการงานก่อสร้างขนาดใหญ่ที่กำลังดำเนินการก่อสร้าง และผู้ประกอบการหรือเจ้าของอาคารสูง ร่วมประชุมหารือและขอความร่วมมือดำเนินมาตรการลดปริมาณฝุ่นละออง
เช่น การติดตั้งเครื่องผลิตละอองหมอกน้ำในบริเวณโครงการหากปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มีค่าประมาณ 51-75 ไมโครกรัมต่อลูกบากศ์เมตร กรุงเทพมหานครจะใช้มาตรการขอความร่วมมือ แต่หากปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มีค่าประมาณ 76-100 ไมโครกรัมต่อลูกบากศ์เมตร จะให้เขตพื้นที่เข้าไปกำกับดูแลอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะบริเวณโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่

นอกจากนี้ยังได้ขอความร่วมมือ รฟม. ให้ประสานโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ ในกำกับดูแลของ รฟม. ติดตั้งเครื่องผลิตหมอกน้ำ เพื่อลดปริมาณฝุ่นบริเวณโครงการ รวมทั้งขอให้บริษัทผู้รับจ้างลดการใช้พื้นที่ผิวการจราจรเกินความจำเป็น เพื่อลดความแออัดคับคั่งของการจราจรบริเวณจุดก่อสร้าง ซึ่งจะเป็นการลดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่มาจากไอเสียรถยนต์ทางหนึ่ง
ในส่วนของการดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชน ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวแก่ประชาชน และให้สำนักอนามัยจัดชุดบริการสาธารณสุขออกหน่วยให้บริการตรวจสุขภาพและให้ความรู้ประชาชนในชุมชนบริเวณจุดเสี่ยงต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในปริมาณสูง

ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์กรุงเทพมหานคร









