
ประเด็นคือ – ตร.เชียงใหม่ รวบหนุ่มผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์แหกห้องขังโรงพักภูพิงค์หลบหนี จนมุมที่ จ.กำแพงเพชร สารภาพฉวยโอกาสเนื่องจากมีภาระที่ต้องรับผิดชอบดูแลอีกหลายอย่าง
วันนี้ (1 ธ.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปิติพงษ์ บุตรเปี่ยม ผู้กำกับการ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ร่วมกันนำตัว นายพีรณัฐ หลงลืม อายุ 26 ปี ที่อยู่ 42 หมู่ 7 ต.ร่องเคาะ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ที่หลบหนีออกไปจากห้องควบคุมตัวบน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยได้มีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังจากที่เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่ จ.กำแพงเพชร ช่วงค่ำวานนี้ (30 พ.ย.) แล้วนำตัวกลับมาถึงและควบคุมไว้ที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้

ทั้งนี้เบื้องต้น นายพีรณัฐ ให้การรับสารภาพว่า ฉวยโอกาสหลบหนีไปเพราะมีภาระที่ต้องรับผิดชอบดูแลอยู่อีกหลายอย่าง ดังนั้นเมื่อมีจังหวะจึงทำการหลบหนีออกไปทันที ขณะเดียวกันยอมรับว่าติดการพนันฟุตบอล และเป็นแฟนบอลของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จริง ซึ่งที่ผ่านมาในช่วงที่เล่นพนันฟุตบอลจะติดตามแทงพนันทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ตลอด โดยที่ช่วงแรกก็ชนะพนันและได้เงิน แต่มาระยะหลังเริ่มแพ้พนันและเสียเงินพนันเป็นจำนวนมาก จนเป็นหนี้สิ้นและต้องก่อเหตุลักทรัพย์

ขณะที่ พ.ต.อ.ปิติพงษ์ บุตรเปี่ยม ผู้กำกับการ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ผู้ต้องหาหลบหนีออกไป ทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามเร่งติดตามจับตัวกลับมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด โดยผู้ต้องหารายนี้มีความคุ้นเคยพื้นที่ จ.เชียงใหม่ พอสมควร โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.ช้างเผือก ทำให้สามารถหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่ได้ ซึ่งหลังจากหลบหนีทางผู้ต้องหาได้ไปหลบอยู่ตามร้านเกมที่คุ้นเคย จากนั้นได้ขโมยจักรยานขี่ไปที่ จ.ลำพูน แล้วนั่งรถโดยสาร จ.ตาก และ จ.กำแพงเพชร จนกระทั่งเจ้าหน้าที่สืบทราบแน่ชัด และติดตามจับกุมได้ที่ จ.กำแพงเพชร โดยแจ้งข้อหาหลบหนีจากห้องควบคุมตัวเพิ่มเติม

ด้าน พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ ได้สั่งการเร่งรัดให้ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด ขณะเดียวกันให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว และกำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดเคร่งครัดในการปฏิบัติหน้าที่ยิ่งขึ้น









