วัดสวนดอกเงียบ เจ้าอาวาสล่องหนจ่อโดนหมายภายใน 2 วัน

วัดสวนดอกเงียบ เจ้าอาวาสล่องหนจ่อโดนหมายภายใน 2 วัน

ในประเทศ

ประเด็นคือ – เจ้าอาวาสวัดสวนดอกยังเงียบหาย หลังถูกแจ้งความดำเนินคดีสวมบัตรประชาชนคนตาย ขณะที่ตำรวจเตรียมออกหมายเรียกเข้ารับทราบข้อกล่าวหาภายใน 2 วันนี้

วันที่ 14 ต.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่พระราชรัชมุนี เจ้าอาวาสวัดสวนดอกและเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ ถูกร้องเรียนว่าสวมบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วและมีการตรวจสอบข้อมูลของฝ่ายปกครอง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 11 ต.ค. ที่ผ่านมา นายอำเภอแม่อาย จ.เชียงใหม่ มอบหมายให้ปลัดอำเภอแม่อาย นำหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สภ.แม่อาย ให้ดำเนินคดีกับพระราชรัชมุนี ในความผิดดังกล่าว

ขณะที่วัดสวนดอก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ บรรยากาศภายในวัดยังคงเป็นปกติ แต่กุฏิเจ้าอาวาสยังคงถูกปิดเงียบ ขณะที่การติดต่อสอบถามกรณีดังกล่าวกับทางสำนักงานวัดสวนดอกได้รับคำตอบแต่เพียงว่า ทางวัดยังไม่ได้รับหนังสือจากหน่วยงานใดๆ ที่แจ้งมาเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยทราบเรื่องจากการนำเสนอข่าวเท่านั้น

กิตติศักดิ์ แสนทวีสุข ขณะนำนำหลักฐานมาร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้ดำเนินคดีกับ พระราชรัชมุนี

ขณะเดียวกันตามรายงานระบุว่า พ.ต.อ.ทรงกริช ออนตะไคร้ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบคดีดังกล่าวนี้ โดยพนักงานสอบสวนรายงานว่าได้ทำการสอบปากคำปลัดอำเภอที่เป็นตัวแทนของฝ่ายปกครองเข้าแจ้งความไว้แล้ว และได้รับหลักฐานที่ระบุว่า พระราชรัชมุนี เข้าขอยื่นทำบัตรประจำตัวประชาชนเมื่อปี 2552 มีหลักฐานเป็นบัตรประจำตัวประชาชนที่มีเลขประจำตัว 13 หลัก พร้อมมีใบสุทธิเป็นหนังสือมาแสดงเป็นหลักฐานเพื่อขอทำบัตร ซึ่งจากการตรวจสอบล่าสุดพบว่า เลข 13 หลักตรงกับเด็กชายดวงดี ชาวจังหวัดชัยภูมิ ที่เสียชีวิตไปแล้ว และพบว่าเลขบัตรประจำตัวประชาชนที่แท้จริงของ นายนิมิต ทิพย์ปัญญาเมธี หรือ พระราชรัชมุนี เป็นอีกหมายเลขหนึ่ง ซึ่งเป็นเลขที่นายนิมิต หรือพระราชรัชมุนี ได้มาเมื่อครั้งขึ้นทะเบียนชาวพม่าพลัดถิ่น โดยเวลานี้ทางตำรวจกำลังรอหลักฐานเพิ่มเติมจากจังหวัดชัยภูมิ และภายใน 2 วันนี้น่าจะสามารถออกหมายเลขพระราชรัชมุนี มารับทราบข้อกล่าวหา

ด้านพระชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดเชียงใหม่ท่านหนึ่ง แสดงความเห็นกรณีเจ้าอาวาสวัดสวนดอกสวมบัตรประชาชนคนไทยว่า ในวงการพระสงฆ์ต่างทราบกันดีว่าพระราชรัชมุนี เติบโตมาจากวัดท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ที่อยู่แนวชายแดน และเป็นเรื่องปกติที่จะมีพระสงฆ์สามเณรจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเดินทางข้ามไปมายังวัดดังกล่าวที่มีชื่อเสียงในการส่งเสริมด้านการศึกษาให้กับพระสงฆ์สามเณร ดังนั้นจึงไม่รู้สึกแปลกใจที่มีการร้องเรียนและตรวจสอบพบว่ามีการสวมบัตรประจำตัวประชาชนเกิดขึ้น รวมทั้งตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีพระสงฆ์ระดับพระชั้นผู้ใหญ่รูปอื่นๆ ใน จ.เชียงใหม่ ที่สวมบัตรประชาชนอีก อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าทางวัดท่าตอน มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้แต่อย่างใด

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวลือว่าพระราชรัชมุนี ได้โยกย้ายถ่ายเทเงินของวัดสวนดอก จำนวนประมาณ 70 ล้านบาท ไปด้วยหลังถูกแจ้งความดำเนินคดีสวมบัตรประชาชนนั้น พระชั้นผู้ใหญ่ท่านเดียวกันนี้กล่าวว่า โดยส่วนตัวไม่เชื่อว่าเป็นความจริงและไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะจากการที่เคยรู้จักใกล้ชิดพบเป็นพระที่มุ่งเน้นทางด้านการศึกษา ไม่ได้สนใจเรื่องการที่ญาติโยมหรือศรัทธาจะต้องนำเงินมาบริจาคทำบุญมากมาย อย่างไรแล้ว ยอมรับว่าอาจจะมีบ้างในเรื่องการถือสมณศักดิ์ แล้วมักจะพูดจาด้วยถ้อยคำรุนแรงกับพระที่สมณศักดิ์ต่ำกว่า

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง
วัดสวนดอกเงียบ เจ้าอาวาสล่องหนจ่อโดนหมายภายใน 2 วัน