![]()
ช่วงต้นปีเป็นเวลาที่มนุษย์เงินเดือนและบุคคลธรรมดาผู้มีรายได้จะต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปี 2561 และที่ผ่านมารัฐบาลได้อนุมัติค่าลดหย่อนเพิ่มเติมทั้งจากการช็อปช่วยชาติและการบริจาคต่างๆ ซึ่งกรมสรรพากรได้ออกมาแนะนำว่า ผู้ที่ต้องการบริจาคลดหย่อนภาษี ควรลงทะเบียนระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) กับกรมสรรพากรเท่านั้น จึงจะสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 เป็นต้นไป
วันที่ 11 ม.ค. 2562 นายปิ่นสาย สุรัสวดี โฆษกกรมสรรพากร อธิบายว่า ผู้บริจาคสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับการบริจาคให้แก่ศาสนสถาน, โรงพยาบาล, องค์กรสาธารณกุศลอื่นๆ ได้ตามปกติโดยไม่จำเป็นต้องมีการลงทะเบียนกับกรมสรรพากรเพื่อสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษี แต่การบริจาคผ่านระบบ e-Donation จะเพิ่มความสะดวกให้กับผู้บริจาค โดยไม่ต้องเก็บเอกสารหลักฐานการบริจาค และสามารถตรวจสอบข้อมูลการบริจาคได้ตลอด 24 ชม. ผ่านทาง www.rd.go.th
กรณีบริจาคให้แก่สถานศึกษา ผู้บริจาคที่ประสงค์จะนำเงินไปหักลดหย่อนเป็นจำนวนสองเท่าจะต้องเป็นการบริจาคผ่านระบบ e – Donation เท่านั้น เริ่มบังคับใช้สำหรับการบริจาคตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562 ส่วนรายการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอื่นๆ เช่น กองทุนต่างๆ LTF/RMF เบี้ยประกันชีวิต ดอกเบี้ยเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ผู้เสียภาษียังสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ตามปกติ ยกเว้นการลดหย่อนเบี้ยประกันสุขภาพ ซึ่งผู้เอาประกันสุขภาพต้องยินยอมให้บริษัทประกันส่งข้อมูลค่าเบี้ยประกันสุขภาพให้กรมสรรพากรในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ จึงจะสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้

สำหรับมาตรการ ‘ช็อปช่วยชาติ’ กรมสรรพากรชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักฐานที่ใช้ในการหักลดหย่อนสำหรับการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมเกษตร ชุมชน และทุนมนุษย์ สำหรับการซื้อสินค้า OTOP หนังสือ และยางล้อรถ ต้องเป็นการซื้อระหว่างวันที่ 15 ธ.ค. 2561 ถึงวันที่ 16 ม.ค. 2562 จึงจะนำไปคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท และในกรณีผู้มีเงินได้จ่ายค่าซื้อสินค้าในช่วงเวลาดังกล่าว 2 ปีภาษี จะได้รับการลดหย่อนตามจำนวนที่จ่ายจริงในแต่ละปีภาษี แต่รวมกัน 2 ปีภาษีแล้ว ต้องไม่เกิน 15,000 บาท โดยสินค้าที่สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีทั้ง 3 ประเภท มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
1. สำหรับสินค้า OTOP ที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชน จะต้องมีหลักฐานการซื้อสินค้าเป็นใบเสร็จรับเงิน (กรณีที่ผู้ขายสินค้าดังกล่าวไม่ได้เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม) หรือใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป (กรณีที่ผู้ขายสินค้าดังกล่าวเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม)
2. สำหรับหนังสือรวมถึง e-Book แต่ไม่รวมถึงนิตยสารและหนังสือพิมพ์ จะต้องซื้อจากผู้ประกอบการ ที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลและต้องมีหลักฐานการซื้อสินค้าเป็นใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป แล้วแต่กรณี
3. สำหรับยางล้อรถยนต์ ยางล้อรถจักรยานยนต์ และยางล้อรถจักรยานที่ซื้อจากผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้เสียภาษีจะต้องมีหลักฐานการซื้อสินค้าเป็นใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปและคูปองที่มีตราประทับของร้านค้าโดยคูปอง 1 ใบ ต่อยาง 1 เส้น
อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 2561 จะใช้โครงสร้างภาษีบุคคลธรรมดาเหมือนกับปี 2560 กำหนดอัตราการเสียภาษีแบบขั้นบันได ตั้งแต่ 5-35% สำหรับผู้ที่มีเงินได้สุทธิที่ไม่เกิน 150,000 บาท จะได้รับการยกเว้นภาษี แต่หากใครมีรายได้ตลอดทั้งปีมากกว่า 310,00 บาท จะต้องเสียภาษีแต่จะเสียภาษีมาก-น้อยแค่ไหนนั้นต้องมาคิดคำนวณจากค่าลดหย่อนที่เรามี










