สาว ป.โท ดีกรีนักเรียนนอกหาช่องว่างตลาดจีน ปลูกกล้วยหอมเขียวส่งออก

สาว ป.โท ดีกรีนักเรียนนอกหาช่องว่างตลาดจีน ปลูกกล้วยหอมเขียวส่งออก

ประเด็นคือ- สาวจบมหาวิทยาลัยยูนนาน ผสมผสานวิชาเศรษฐศาสตร์ที่ร่ำเรียนมาจนจบปริญญาโท กับอาชีพเกษตรกรของพ่อแม่ ผันตัวเองเป็นเกษตรกร หาช่องว่างทางการตลาด ปลูกกล้วยหอมเขียวส่งจีน สร้างงานสู่ชุมชน

วันนี้ (20 พ.ย. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณเลาะริมฝั่งแม่น้ำน่าน บ้านท่ามะเฟือง หมู่ 2 ต.ท่ามะเฟือง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ น.ส.รัตนภรณ์ ศรีจิตรเพชร อายุ 27 ปี พร้อมคนงานนำบันไดเหล็ก ลุยเข้าสวนกล้วยหอมเขียวที่กำลังให้ผลผลิต เพื่อทำการห่อเครือกล้วยป้องกันแมลงรบกวน หลังจากนี้อีก 50 วัน กล้วยหอมเขียว 20 ไร่ที่ปลูกมา 6 เดือนจะสามารถเก็บผลผลิต ส่งขาย และเป็นผลไม้ส่งออกที่จีนสั่งจองไว้ล่วงหน้าแล้ว

น.ส.รัตนภรณ์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 8 ปี ที่ตนเรียนทั้งปริญญาตรีและปริญญาโท ด้านเศรษฐศาสตร์ ที่ มหาวิทยาลัยยูนนานนอร์มอล นครคุนหมิง ประเทศจีน เฝ้าติดตาม สังเกตความต้องการ ชีวิตประจำวันของคนจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมาก หลังเรียนจบจึงปรึกษาครอบครัว อยากเป็นเกษตรกร อยากปลูกพืชคุณภาพเพื่อส่งออก

แม้ไม่ได้เรียนหรือมีประสบการณ์ด้านเกษตร โชคดีที่ครอบครัวมีอาชีพนี้จึงเป็นที่ปรึกษาและกำลังใจให้อย่างดี และตลอดระยะเวลาที่อยู่ประเทศจีนก็พบว่า ผลไม้อุตรดิตถ์ก็ขึ้นชื่อ เวลาส่งออกกลับเป็นสินค้าจากจังหวัดอื่น ไม่ใช่ จ.อุตรดิตถ์

ดังนั้น ตนจึงพยายามศึกษาช่องทาง โดยเฉพาะมาตรฐานสินค้าส่งออก และตั้งใจผลิตสินค้าของ จ.อุตรดิตถ์ ส่งตรงพ่อค้าชาวจีน

หลังบอกครอบครัวว่า “จะปลูกกล้วยหอมเขียวส่งออก” ทุกคนมองเราเป็นเด็ก ไม่มีประสบการณ์ มือใหม่ คำพูดต่างๆ จึงกลายเป็นแรงผลักดัน หลังศึกษาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตและพ่อแม่ ซึ่งเป็นนักวิชาการใกล้ตัว พบว่า กล้วยชนิดอื่นปลูกกันเยอะ และซื้อขายในประเทศ สำหรับกล้วยหอมเขียว หรือกล้วยหอมคาเวนดิช เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีอนาคตสำหรับประเทศไทย เนื่องจากตลาดจีนยังรับไม่อั้น ด้วยธรรมชาติของกล้วยเป็นพืชที่ปลูก ดูแลง่าย ให้ผลผลิตทุกต้น เพียงแต่ต้องปรับให้เป็นกล้วยส่งออก จากการศึกษา กล้วยหอมเขียว เนื้อจะมีโพรงอากาศ ทานแล้วละลายในปาก และสามารถแปรรูปได้หลากหลาย

จึงใช้ที่ดินรกร้าง 20 ไร่ อยู่ติดริมแม่น้ำน่าน ปรับเป็นแปลงปลูกกล้วยหอมเขียวด้วยระบบน้ำพุ่ง เริ่มปลูกตั้งแต่เดือนเมษายน 2560 ผ่านมากว่า 6 เดือน ชื่นใจที่สุดเมื่อเห็นผลผลิตเป็นไปตามเป้าหมาย ปลูกไร่ละ 400 ต้น รวม 8,000 ต้น หลังกล้วยเริ่มมีหัวปลีจะต้องดูแลไม่ให้แมลงรบกวน ช่วงเดือนที่ 6 ขนาดหวีและลูกกล้วยเริ่มโต จะทำการคัดและตัด จาก 1 เครือ มี 11 หวี ให้เหลือ 7-8 หวี เพื่อให้ลูกกล้วยได้มาตรฐาน ไม่แย่งอาหารกัน

จากนั้นหุ้มด้วยพลาสติก อีก 50 วันข้างหน้าจะพร้อมตัดขาย จากที่สำรวจแปลงและคำนวณผลผลิตรุ่นแรก 8,000 ต้น ให้ผลผลิตต้นละ 20 กิโลกรัม หรือประมาณไร่ละ 8-10 ตัน ซึ่งมีพ่อค้าจีนสั่งจองแล้ว เริ่มต้นราคากิโลกรัมละ 12 บาท หรือไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นบาทต่อไร่  ทั้งนี้กล้วยหอมเขียวเกรดส่งออก จะตัดไม่แก่จัดให้ลูกคงความเป็นเหลี่ยม

น.ส.รัตนภรณ์ กล่าว่า ลงทุนซื้อต้นกล้า ปลูกรุ่นแรก 8 เดือนให้ผลผลิต จากนั้นเราจะใช้หน่อในการขยาย อีก 3 เดือนให้ผลผลิต เลือกใช้หลักเศรษฐศาสตร์ที่เรียนมาผสมผสานกับความเป็นท้องถิ่น จึงทำให้แปลงปลูกกล้วยหอมเขียวเป็นงานชิ้นแรก ท่ามกลางกระแสของคำว่า “บ้าไปแล้ว” พยายามทำให้ดี และเลือกจ้างแรงงานในหมู่บ้านเพื่อให้มีการเปลี่ยนทัศนคติในการทำเกษตรรูปแบบใหม่ หรือเกษตรทางเลือก เชื่อว่าการผันตัวเองเป็นเกษตรกรไม่ได้คิดผิด แต่กลับมีความสุข ที่ได้อยู่ดูแลพ่อแม่ และสืบทอดอาชีพเกษตรกรรมอีกคนหนึ่ง ขณะเดียวกันยังมีการปลูกมะพร้าวน้ำหอมแทรกในสวนกล้วยกล้วย ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งผลผลิตในอนาคต

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง