สแกนใบหน้าวิเคราะห์โรคไข้เลือดออกไม่ได้! สงสัยอาการป่วยให้รีบพบแพทย์

สแกนใบหน้าวิเคราะห์โรคไข้เลือดออกไม่ได้! สงสัยอาการป่วยให้รีบพบแพทย์

อย่าหลงเชื่อการใช้ภาพใบหน้าวิเคราะห์อาการป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก แพทย์ระบุไม่ใช่วิธีมาตรฐาน หากป่วยควรมาพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง

วันที่ 10 มิ.ย. 2562 เข้าสู่หน้าฝนโรคไข้เลือดออกเริ่มแพร่ระบาดรุนแรงขึ้น และมีการเผยส่งต่อข้อมูลผิดๆ ทางโซเชียลมีเดีย ระบุว่า มีการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ นำภาพใบหน้ามาวิเคราะห์อาการป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกนั้น นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การใช้โปรแกรมดังกล่าวมาเพื่อวินิจฉัยการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ ไม่ใช่วิธีมาตรฐาน เพราะผู้ป่วยที่มีอาการไข้และหน้าแดง ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นโรคไข้เลือดออกอย่างเดียว อาจเป็นโรคอื่นๆ ได้ ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อ เพราะอาจทำให้ได้รับการรักษาล่าช้า อาการอาจรุนแรงขึ้น เป็นเหตุสำคัญทำให้มีโรคแทรกซ้อนและเป็นปัจจัยที่อาจทำให้เสียชีวิตได้ หากเจ็บป่วยควรมาพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัย และรับการรักษาที่ถูกต้อง

โรคไข้เลือดออก มียุงลายเป็นพาหะ อาการที่พบส่วนใหญ่มีไข้สูงมากโดยฉับพลัน ปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา ปวดเมื่อยตามตัว เบื่ออาหาร อาจมีผื่นหรือจุดเลือดขึ้นใต้ผิวหนังตามแขนขา ข้อพับ ถ้ามีไข้สูง 2-3 วัน ไม่หายหรือไม่ดีขึ้น ต้องรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อรับการวินิจฉัย และรักษาอย่างถูกต้อง หากแพทย์ให้กลับมารักษาตัวที่บ้านก็ไม่ต้องกังวล เพราะส่วนใหญ่โรคไข้เลือดออก หายได้เอง หากไม่เข้าสู่ภาวะช็อก มีเพียงบางรายเท่านั้น อาการในช่วงไข้ลด ผู้ป่วยจะมีอาการซึม กระสับกระส่าย ชีพจรเต้นเร็ว มือเท้าเย็น บ่นปวดท้อง อาจมีเลือดกำเดา อาเจียนปนเลือด หรือถ่ายปนเลือด หากมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งต้องรีบกลับไปพบแพทย์ที่เดิมให้เร็วที่สุด

กลุ่มเสี่ยงที่อาจมีอาการรุนแรง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น ผู้ที่มีภาวะอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หอบหืด ภาวะติดสุรา ธาลัสซีเมีย หรือมีประวัติเป็นไข้เลือดออกมาก่อน เป็นต้น แนะมาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” คือ เก็บบ้านให้สะอาด ไม่ให้มีมุมอับทึบเป็นที่เกาะพักของยุง ล้างคว่ำภาชนะใส่น้ำและเปลี่ยนน้ำในกระถางหรือแจกันทุกสัปดาห์ เก็บขยะ เศษภาชนะไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง เก็บน้ำ ภาชนะที่ใส่น้ำต้องปิดฝามิดชิดป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่ ขอให้ป้องกันการถูกยุงกัด โดยทายากันยุง และนอนในมุ้ง เป็นต้น ซึ่งจะสามารถป้องกันได้ 3 โรค คือ โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิก้า และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง