
นายกรัฐมนตรี ชี้แจงความคืบหน้าแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ หน่วยงานรัฐเร่งช่วยใช้ คาดทำราคายางเพิ่มขึ้นกิโลกรัมละ 5 บาท พร้อมส่งเสริมปลูกโกโก้ทดแทน แต่เตือน “อย่าแห่กันปลูกมากเกินไป”
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ออกอากาศวันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมา ถึงการแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ โดยระบุว่า มี 2 แนวทางสำคัญ คือ แนวทางแรก ส่งเสริมการใช้ยางในประเทศ ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้กระทรวงต่าง ๆ และกรุงเทพมหานคร สำรวจความต้องการและพิจารณาปรับแผนงานโครงการ เพื่อให้มีการใช้ผลิตภัณฑ์ วัสดุ ครุภัณฑ์ สิ่งก่อสร้างจากยางพาราเพิ่มมากขึ้น เช่น บล็อกยางปูพื้นภายนอกอาคาร ถนนงานยางพาราแอสฟัลต์ติกคอนกรีตและถนนงานดินซีเมนต์ผสมยางพารา โดยขณะนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จับมือกับกระทรวงมหาดไทย สนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ เดินหน้าสร้างถนนยางพารากว่า 75,000 หมู่บ้าน และกว่า 7,200 ตำบลทั่วประเทศ เป็นการใช้น้ำยางพารา 960,000 ตัน ในอัตราสร้างถนน 1 กิโลเมตร ต่อน้ำยางพารา 12 ตัน คาดว่า การใช้ของหน่วยงานรัฐนี้ จะส่งผลให้ราคายางพาราสูงขึ้นอีก 5 บาทต่อกิโลกรัม
แนวทางที่ 2 การปลูกพืชทดแทนหรือแซมในสวนยาง เพื่อลดการผลิตยางพาราให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดทั้งภายในและตลาดต่างประเทศ ซึ่งเป็นแนวทางการปฏิรูปภาคการเกษตรของรัฐบาลที่ได้เริ่มดำเนินการไปบ้างแล้ว เช่น โครงการปลูกข้าวโพดอาหารสัตว์หลังฤดูการทำนา เป็นต้น ปัจจุบันตลาดภายในประเทศและตลาดโลก มีความต้องการผลผลิตโกโก้มากขึ้น เกษตรกรไทยเริ่มให้ความสนใจปลูกโกโก้กันมากขึ้น เพราะราคาซื้อขายค่อนข้างสูง

(ภาพจาก FB : PARADAi – ภราดัย – Crafted Chcolate & Cafe)
นายกรัฐมนตรี ยังได้ยกตัวอย่างความสำเร็จ “โกโก้ไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก” ภราดัย พาช็อกโกแลตไทย คว้า 2 รางวัลระดับโลก International Chocolate Awards รอบชนะเลิศ World Final เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ที่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ก่อนหน้านี้ได้รางวัลในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ International Chocolate Awards ประจำปีนี้ เดือนกันยายนที่ผ่านมา
“อย่างไรก็ตามผมก็ไม่อยากให้แห่กันปลูก แต่ควรดำเนินการนโยบายตลาดนำการผลิตตั้งแต่ต้น พื้นที่ใดควรปลูก ปลูกแล้วสมบูรณ์ดี ได้ผลผลิตสูง น้ำท่าดี อากาศเหมาะสม ที่สำคัญต้องส่งเสริมทั้งกระบวนการ ตั้งแต่ต้นทาง คือแหล่งเพาะปลูกที่ไม่มากจนทำให้ราคาตกในอนาคต กลางทางคือการศึกษาวิจัยเพื่อปรับปรุงพันธุ์ การแปรรูปเป็นช็อกโกแลต เครื่องดื่ม ไปจนถึงการออกแบบหีบห่อผลิตภัณฑ์ ที่สะท้อนถึงความเป็นไทย”
ส่วนชาวนา แนะปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา ตามโครงการสานพลังประชารัฐ เนื่องจาก ปัจจุบันปริมาณข้าวโพดในประเทศยังขาดแคลนและต้องการให้เพิ่มผลผลิตอีกปีละ 3 ล้านตัน โดยอาจต้องส่งเสริมให้เกษตรกรขยายพื้นที่ปลูกข้าวโพดเพิ่มอีก 3-4 ล้านไร่ และหากสามารถเพิ่มผลผลิตได้อีกปีละ 3 ล้านตัน จะเป็นประโยชน์กับทั้งตัวเกษตรกรที่สามารถลดพื้นที่ทำนาแล้วหันมาปลูกพืชที่มีตลาดรับซื้อแน่นอนและได้ราคาที่เป็นธรรม โรงงานผู้ผลิตอาหารสัตว์จะมีวัตถุดิบในประเทศที่เพียงพอสำหรับการผลิตอาหารสัตว์และลดการสั่งซื้อวัตถุดิบจากต่างประเทศ
ขอบคุณภาพ FB : PARADAi – ภราดัย – Crafted Chcolate & Cafe
ข่าวที่เกี่ยวข้อง









