
ตำรวจบุกจับร้านคาราโอเกะกลางเมืองเชียงใหม่ หลังนักท่องเที่ยวเกาหลีร้องถูกโขกค่านั่งดริ้ง 1.6 แสนบาท ขณะที่ร้านต้นเหตุไหวตัวปิดทัน หนุ่มเกาหลีเตรียมขึ้นโรงพักขอคืนเงินอีกครั้งช่วงเที่ยงวันนี้
วันที่ 5 ต.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว นำกำลังเข้าตรวจสอบร้านคาราโอเกะ ย่านถนนช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่ ที่ได้รับแจ้งว่าคิดราคาแพงเกินจริง เอาเปรียบนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าไปใช้บริการมานาน พบว่าหน้าร้านปิด แต่ด้านในยังเปิดให้บริการและยังมีการจำหน่ายสุราและมีพนักงานสาวนับสิบคนนั่งดริ้งกับลูกค้า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าไม่มีใบอนุญาตเปิดสถานบริการ จึงควบคุมตัวคนดูแลรวมทั้งพนักงานสาวนั่งดริ้งทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ดำเนินคดีข้อหาจำหน่ายสุราเกินเวลาและเปิดสถานบริการไม่มีใบอนุญาต

ส่วนร้านคาราโอเกะอีกแห่งหนึ่ง ย่านถนนเจริญประเทศ อ.เมืองเชียงใหม่ ที่ถูกนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีร้องเรียนว่าคิดเงินค่าใช้บริการมากกว่า 5 ล้านวอน หรือ 1.6 แสนบาท เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบว่าทางร้านไหวตัวปิดร้านไปก่อน โดยร้านทั้ง 2 แห่ง อยู่ในเครือเดียวกัน เมื่อมีการร้องเรียน จึงเข้าตรวจสอบและจับกุมเพื่อไม่ให้เสียภาพลักษณ์การท่องเที่ยว
พ.ต.อ.ปิยะพันธุ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ เผยว่า ก่อนหน้านี้ได้รับการร้องเรียน จากนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีว่า เข้าไปใช้บริการร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อน และถูกทางร้านคิดค่าใช้บริการมากกว่า 5 ล้านวอน หรือ 1.6 แสนบาท ซึ่งได้ตรวจสอบข้อมูลทางร้าน อ้างว่าเป็นค่านั่งดริ้งและค่าเครื่องดื่ม เนื่องจากลูกค้ารายนี้นั่งหลายชั่วโมง หลังจากนั้นทางร้านและลูกค้าได้เจรจากัน ทางร้านยอมคืนเงินให้ 6 หมื่นบาท แต่นักท่องเที่ยวเกาหลีรายนี้ยังรู้สึกว่าถูกเอาเปรียบ จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจเมื่อวานนี้ (4 ต.ค.)

ขณะที่ร้านคาราโอเกะที่ถูกร้องเรียน เจ้าหน้าที่ยังเข้าตรวจสอบไม่ได้ เนื่องจากปิดบริการ แต่พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน หากพบว่าเอาเปรียบนักท่องเที่ยวจริง จะดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง อย่างไรก็ตาม ในเวลา 11.00 น. วันนี้ นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีจะเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อเจรจาขอเงินคืนเพิ่มจากร้านคาราโอเกะคู่กรณีอีกครั้ง










