ประเด็นคือ – รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อ สนช.-กรธ.เป็นขบวนการยื้ออำนาจ คสช. นายกฯ ควรแก้ไขก่อนกระทบต่อเศรษฐกิจ อย่าปล่อยให้วางระเบิดเวลา เพื่อยื้ออำนาจออกไปเรื่อยๆ
วันที่ 18 มี.ค. 2561 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งคำถามถึง สนช. และ กรธ.ว่าทำไมไม่พิจารณาร่างกฎหมายการได้มาซึ่ง ส.ว. ให้เรียบร้อยตั้งแต่ขั้นตอนการตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ร่วม 3 ฝ่าย เพราะ สนช. ก็เพิ่งลงมติเห็นชอบให้กฎหมายผ่านออกมาเอง แต่กลับมายื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอีก
นายองอาจ กล่าวว่า การที่ สนช. เตรียมยื่นร่างกฎหมายการได้มาซึ่ง ส.ว. ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และที่ นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธาน กรธ. มีความกังวลในร่างกฎหมายการเลือกตั้ง ส.ส. และร่างกฎหมายด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ว่าอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญสามารถมองปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ อาจเป็นสองทาง คือ 1. อาจจะเป็นการพิจารณากฎหมายที่ไม่รอบคอบโดยบริสุทธิ์ใจ และ 2. อาจจะเป็นขบวนการของการยื้ออำนาจ เพราะทั้ง สนช. และ กรธ. ต่างถือกำเนิดเกิดจาก คสช.เหมือนกัน ถ้าไม่มีวาระซ่อนเร้น น่าจะหาข้อสรุปที่ลงตัวได้โดยไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ ตามมา
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชี้ว่า การที่ทั้ง กรธ.และ สนช. ที่มาจาก คสช.เหมือนกัน ไม่ยอมหาข้อสรุปเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจึงถูกมองได้ว่าเป็นขบวนการยื้ออำนาจจึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา เร่งแก้ไขก่อนเกิดผลกระทบ ศก.บานปลาย เพราะความพยายามยื้ออำนาจออกไป ย่อมทำให้กรอบเวลาที่จะจัดการเลือกตั้งเกิดความไม่แน่นอน จะทำให้กระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน รวมถึงนักธุรกิจไทย และนักธุรกิจต่างชาติ ที่จะวางแผนการลงทุนในอนาคต
นายองอาจ เรียกร้องให้ นายกฯ และหัวหน้า คสช. ควรใช้ความกล้าหาญบริหารจัดการอำนาจที่มีอยู่ในมือของท่าน จัดการให้ทุกอย่างเป็นไปตามโรดแมปเลือกตั้งภายในเดือน ก.พ. 2562 เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ อย่าปล่อยให้มีการวางระเบิดเวลา เพื่อยื้ออำนาจออกไปเรื่อยๆ จะทำให้ถอดสลักยากขึ้นทุกที และอาจมีปัญหาบานปลายตามมาได้ในอนาคต
