พบภาพเขียนสีโบราณที่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ อายุประมาณ 3,000 – 5,000 ปี มีภาพลิง 7 ตัว โหนเถาวัลย์ในถ้ำที่อ่าวลึก นักวิชาการเข้าตรวจสอบ เตรียมสำรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง
วันที่ 22 พ.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิวัฒน์ วัฒนยมนาพร นักวิชาการด้านโบราณคดี จ.กระบี่ และเป็นอดีตกรรมการสภาวัฒนธรรม จ.กระบี่ เปิดเผยว่า ทางตนพร้อมด้วยนักโบราณคดี จากกลุ่มโบราณคดีและอนุรักษ์โบราณสถาน สาขาภูเก็ต สำนักศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราช และผู้นำชุมชน ได้เข้าสำรวจภาพเขียนสีแห่งใหม่ ที่ชาวบ้านเพิ่งไปพบโดยบังเอิญ ภายในถ้ำเขาพรุตีม๊ะ ม.6 บ้านคีรีวงศ์ ต.อ่าวลึกน้อย อ.อ่าวลึก จ.กระบี่
จากการตรวจสอบพบว่า มีภาพเขียนสีตามเพิงผาและเหลือบถ้ำ ชัดบ้าง เลือนรางไปบ้าง ทั้งหมด 8 กลุ่ม โดยที่ชัดเจนมีภาพช้าง และที่น่าสนใจคือ ภาพลิง 7 ตัวโหนเถาวัลย์ และภาพคน ถือเป็นอีกจุดหนึ่งของอำเภออ่าวลึกที่เพิ่งค้นพบ
นายนิวัฒน์ กล่าวว่า เป็นการสำรวจในเบื้องต้นเท่านั้น แต่พบว่าภาพเขียนสีกระจายทั่วไป 8 กลุ่ม ไม่ต่ำกว่า 30 ภาพ ที่น่าสนใจและชัดเจนมากคือ ลิงโหนเถาวัลย์ 7 ตัว เจ้าหน้าที่ประเมินสีและภาพพบว่า มีอายุประมาณ 3 – 5 พันปี หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะเข้าสำรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง
ทั้งนี้ พื้นที่อำเภออ่าวลึก มีการค้นพบภาพเขียนสีอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งที่ยังรอการสำรวจ รวมกว่า 500 ภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ไม่สามารถประเมินค่าได้
โดยเมื่อช่วงต้นปี 2559 ก็มีการค้นพบภาพเขียนสีโบราณ ที่บริเวณเพิงผาเขาหลัก บ้านอ่าวน้ำ พื้นที่รอยต่อ ม.2 และ ม.3 ต.แหลมสัก อ.อ่าวลึก หลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า พบภาพเขียนสีโบราณแห่งใหม่จำนวนมาก
ในคราวนั้น จุดที่พบภาพเขียนสีอยู่บริเวณผนังเพิงผา สูงจากพื้นประมาณ 10 เมตร ยาวประมาณ 20 เมตร รวมกว่า 30 ภาพ มีทั้งภาพลายเส้นและเส้นทึบสีแดง ภาพที่พบส่วนใหญ่ร่องรอยเจือจาง มีเพียงประมาณ 3 – 4 ภาพ ที่ยังมองเห็นได้ชัดเจน เช่น ภาพคน ในท่าทางคล้ายประกอบพิธีกรรมบางอย่าง ภาพทรงเรขาคณิต และลายเส้น บอกเล่าเรื่องราวและกิจกรรมในอดีตของคนในยุคก่อนปะวัติศาสตร์ อายุรวม 2,000 – 4,000 ปี คาดว่าจะเป็นแหล่งอาศัยของมนุษย์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ หรือจุดแวะพักทำพิธีกรรมต่างๆ
นอกจากนั้นยังพบ ภาพเรือสำเภา แต่มีลักษณะสีของภาพเป็นลายเส้นสีดำ คาดว่าอยู่ยุคประวัติศาสตร์ เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกภาพไว้ พร้อมวัดขนาด และบันทึกพิกัดภาพเขียนทั้งหมดไว้ เพื่อนำข้อมูลไปรวบรวมรายงานไปยังกรมศิลปากรต่อไป
