
ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เร่งรณรงค์งดโฟม-ลดถุงพลาสติก ขอความร่วมมือพ่อค้า-แม่ค้า และ ปชช. หันมาใช้ถุงผ้า และวัสดุย่อยสลายง่ายลดภาวะสิ่งแวดล้อม
วันที่ 27 ก.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณภายในตลาดวโรรส อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วย นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันลงพื้นที่เพื่อประชาสัมพันธ์และตรวจเยี่ยมโครงการการรณรงค์ งดโฟม-ลดถุงพลาสติก โดยการนำร่องที่ตลาดวโรรสและตลาดศิริวัฒนา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการลดปริมาณขยะของเทศบาลนครเชียงใหม่ ด้วยการใช้ถุงผ้า และวัสดุย่อยสลายง่าย
ซึ่งในการนี้ทางผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าทำการพูดคุยกับบรรดาพ่อค้า-แม่ค้า ภายในตลาด รวมถึงประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาจับจ่ายซื้อของภายในตลาด เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ภาคประชาสังคมเล็งเห็นความสำคัญของการงดใช้โฟม และลดใช้พลาดสติกอีกทางหนึ่งด้วย

ทางด้าน นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในเรื่องของการรณรงค์เพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมของ จ.เชียงใหม่ ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ได้มีการดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยในการรณรงค์งดใช้โฟมและถุงพลาสติก รวมทั้งส่งเสริมให้มีการใช้ถุงผ้า ในการมาจับจ่ายซื้อของ และการส่งเสริมการใช้ถุงไบโอพลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้ง่าย เพื่อเป็นการลดภาวะสิ่งแวดล้อม
ขณะเดียวกันจากผลการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมก็พบว่า ประชาชนรวมไปถึงพ่อค้าแม่ค้า ภายในตลาดก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีและพร้อมมีส่วนร่วมด้วยความตั้งใจ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโครงการนี้จะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องขยายไปยังตลาดต่างๆ อีกหลายๆ แห่ง อีกทั้งตั้งเป้าว่าจะมีการขยายผลการรณรงค์ไปยังสถานศึกษา และโรงพยาบาล พร้อมทั้งขอความร่วมมือทุกภาคส่วนในการมีส่วนร่วมด้วย

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาพบว่า จ.เชียงใหม่ ประสบปัญหาขยะมากกว่า 330 ตันต่อวัน ซึ่งที่ผ่านมาทางเทศบาลนครเชียงใหม่ได้มีการรณรงค์ในการลดใช้ขยะพลาสติกและโฟม รวมไปถึงการคัดแยกขยะเพื่อรีไซเคิลสินค้าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งนี้ อยากให้ประชาชนหันมาสนใจในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเพื่อยกเลิกการใช้กล่องโฟมบรรจุอาหารและลดการใช้ถุงพลาสติก โดยเปลี่ยนไปใช้ภาชนะอื่นทดแทน เช่น ถุงผ้า ปิ่นโต กล่องอาหาร หรือพลาสติกชนิดย่อยสลายได้
โดยโครงการดังกล่าว จะได้ดำเนินการในตลาดสดในเขตพื้นที่เทศบาลนครเชียงใหม่ จำนวน 16 แห่ง เป็นอันดับแรก ก่อนจะขยายผลไปสู่ภาคส่วนอื่นๆ อาทิ โรงแรม สถานศึกษา ห้างค้าปลีก ตลอดจนร้านสะดวกซื้อ










